วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

3. เรื่องหมา - หมา

3. เรื่องหมา - หมา

หมา เป็นสัตว์ที่คนไทยหรือคนชาติไหน ๆ ในโลกนิยมเลี้ยงกันมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น และเป็นเพื่อนที่ตอบสนองทางจิตใจได้ดี เราสามารถสัมผัสมันหรือแม้แต่จะพูด คุยกับมันได้ แต่เราไม่มีทางทำอย่างนั้นได้เลยกับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เช่น ปลาเงิน , ปลาทอง , งูหลาม , หรือกิ้งก่าอีกัวนา ส่วนเหตุผลรองก็คือ เลี้ยงมันไว้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการจับหนู คาบสัตว์ที่ถูกยิงมาให้เจ้าของหรือเฝ้าบ้าน

หมา มีหน้าที่ที่คนมอบหมายให้ทำต่างกัน จึงเกิดการเพาะพันธุ์ที่แตกต่างกัน หมาฝรั่ง เช่น โกลเดนรีทรีฟเวอร์ มีหน้าที่ติดตามพรานไปคาบมา ดัชชุนต์ต้องตัวยาวเพื่อมุดโพรงไปล่าหนู ส่วนหมาไทย เช่น บางแก้ว ซึ่งเป็นพันธุ์ใหม่ที่ผสมพันธุ์ระหว่างหมาที่อำเภอบางแก้ว จ.พิษณุโลก กับหมาจิ้งจอก หรือหมาป่านั้นก็มีไว้เฝ้าบ้าน หรือใช้ในกิจกรรมทางทหาร

กล่าวเฉพาะหมาพันธุ์ที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังอยู่เนือง ๆ คือ ร๊อทไวเลอร์ มีถิ่นกำเนิดในอิตาลีเมื่อสองพันปีกว่ามาแล้ว กองทัพโรมันใช้หมาพันธุ์นี้เป็นสุนัขสงคราม นำมันติดตามไปทุกที่ แต่ไปขยายพันธุ์ได้ดีในเมืองร๊อทไวล์ เยอรมนี ลักษณะเด่นของร๊อทไวเลอร์ คือกรามที่แข็งแรงอย่างเหลือเชื่อ เป็นพันธุ์ที่แรงกัดหนักที่สุด สามารถขบกระดูกขาวัวใหญ่ ๆ ให้แตกได้ในการงับเพียงไม่กี่ครั้ง ลักษณะทางกายภาพที่กำยำล่ำสัน เต็มไปด้วยมัดกล้าม ทำให้มันเหมาะที่จะใช้งานในกองทัพ เป็นหมาหนึ่งในไม่กี่พันธุ์ที่ไม่เกี่ยงสภาพดินฟ้า อากาศ มนุษย์สามารถเลี้ยงร๊อทตี้ได้ในสภาพทะเลทรายไปจนถึงไซบีเรีย

ยิ่งกว่านั้นเป็นหมาฉลาด กระโหลกใหญ่ บรรจุไว้ด้วยสมองก้อนใหญ่ที่คู่มือเลี้ยงหมาของฝรั่งต่างใช้คำบรรยายตรงกัน ว่า

"highly intelligent" เป็นหมาหนึ่งในไม่กี่พันธุ์ที่สอนง่าย ภักดีต่อเจ้าของ และแน่นอน... ฉลาดที่สุด

แต่ข้อเสียของร๊อทไวเลอร์ ก็คือ มันเป็นหมาที่ไม่อดทนต่อการกดดัน โดยเฉพาะด้านจิตใจ การเลี้ยงอย่างไม่เอาใจใส่ การกำจัดเขต ล้วนเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้มันทั้งสิ้น เนื่องจากหมาพันธุ์นี้แข็งแรง และกัดได้รุนแรงกว่าหมาพันธุ์อื่น จึงต้องการการดูและเป็นพิเศษ การมีคู่มือเลี้ยงมันจะช่วยให้ปฏิบัติตัวกับมันได้ถูกต้อง อาทิช่วงวัยขนาดไหนควรพามันไปพบคนมาก ๆ เพื่อให้ไม่กลัวคน ไม่กัด ช่วงเวลาไหนควรพาไปเรียน หรือจะจัดสถานที่เลี้ยงดูหมาอย่างไรจึงจะเหมาะสม ด้วยความที่ร๊อทไวเลอร์ ภักดีต่อเจ้าของ
(ใช้คำว่า รัก นั้นน้อยไปสำหรับหมาพันธุ์นี้) เจ้าของหรือผู้เลี้ยงจึงควรรักมันด้วยความจริงใจ พูดคุยกับมัน จูบ กอดมันด้วยความจริงใจ ให้มันสัมผัสได้ถึงความรักที่มีต่อมัน เมื่อมันรักเรา เรารักมันตอบกอดจูบดูแลอย่างจริงใจและผูกพัน ความรักนั้นจะเผื่อแผ่ไปยังมนุษย์คนอื่นด้วย

ร๊อทไวเลอร์ที่เจ้าของ เลี้ยงอย่างรักใคร่จะไม่ดุร้าย และมันจะรักมนุษย์คนอื่น ๆ ด้วย เคยมีคนให้มันทำหน้าที่เป็นเพื่อนเด็กเล็กได้เมื่อเลี้ยงให้โตมาด้วยกัน ความอดทนต่ำต่อแรงกดดัน ทำให้ต้องเลี้ยงมันด้วยบริเวณกว้างพอสมควร การขังกรงตลอดเวลานับว่าไม่สมควร ยิ่งขังกันทีละสองสามตัวยิ่งเลวร้าย หมาจะเครียดและกลายเป็นดุ เห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมด ร๊อทไวเลอร์ไม่ได้ดุมากไปกว่าบางแก้วหรือบูลเทอเรีย แต่เรี่ยวแรงของมันนั้นมีมหาศาล แค่มันกัดเบา ๆ เพราะตกใจ ก็สามารถทำให้เลือดเป็นทางยาวได้แล้วสำหรับผู้ใหญ่ ลองคิดดูเถิดว่าถ้าเป็นเด็กกระดูกอ่อน ๆ จะสาหัสแค่ไหน

ร๊อทไวเลอร์ ดุเท่ากับหมาทุกพันธุ์ที่มนุษย์เลี้ยงอย่างไม่ใส่ใจ แต่สร้างความเสียหายได้มากกว่าเพราะมันแข็งแรงกว่า เจ้าของต้องเป็นคนที่แข็งแรงมากจึงจะดึงร็อตไวเลอร์น้ำหนัก 40 ก.ก.ให้อยู่ ต้องกันมันให้อยู่ห่างจากคนอื่น ๆ เพราะมีโอกาสมากเหลือเกินที่จะก่อความเสียหาย ทั้งทรัพย์สินและชีวิต



ร๊อทไวเลอร์และหมาพันธุ์อื่น ๆ จะดุหรือน่ารักนั้น ขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร และถ้าเกิดเรื่องร้ายขึ้น คนที่รับกรรมก็คงเป็นคนเลี้ยงนั่นเอง ที่เป็นคดีขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์บ่อย ๆ ในเรื่องความดุร้ายของร๊อทไวเลอร์นั้น สื่อต่าง ๆ ลืมคำนึงถึงวิธีเลี้ยงดู มุ่งเขียนข่าวแต่ด้านโหดเพื่อเรียกยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าสืบสวนลึกลงไปก็จะรู้ว่าเหตุร้ายเกือบทั้งหมดมีต้นตอมาจากวิธีการ เลี้ยงดูของคนนั่นเอง หาใช่ตัวหมาดุเองไม่

วิถีชีวิตของหมา หรือแม้แต่คน ถูกกำหนดโดยคนเลี้ยง และสภาพแวดล้อม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
จาก “เรื่องหมา ๆ” ในคอลัมน์ ขอบฟ้ากว้าง โดย ดุษฏี พนมยงค์ หนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 1383 ประจำวันที่ 16-22 ก.พ. 2550

บันทึกถึงผู้เขียน
ขอคารวะ และขอบคุณ “ครูดุษ” อย่างจริงใจ ที่ถ่ายทอดความเข้าใจอันถูกต้องชัดเจนต่อร๊อทไวเลอร์ ได้อย่างลึกซึ้งและมีคุณค่ายิ่ง ให้กับสังคมนอกวงการผู้นิยมร๊อทไวเลอร์ ได้รู้จักร็อตไวเลอร์ในอีกแง่มุมหนึ่ง นอกเหนือไปจากที่มักจะตกเป็น “จำเลยจอมโหด” ทางสื่ออยู่เนือง ๆ โดยเฉพาะข้อสรุปในเรื่องวิถีชีวิตของสุนัขที่ขึ้นอยู่กับเจ้าของ และสิ่งแวดล้อมนั้น สำคัญยิ่ง

3. เรื่องหมา - หมา

3. เรื่องหมา - หมา

หมา เป็นสัตว์ที่คนไทยหรือคนชาติไหน ๆ ในโลกนิยมเลี้ยงกันมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น และเป็นเพื่อนที่ตอบสนองทางจิตใจได้ดี เราสามารถสัมผัสมันหรือแม้แต่จะพูด คุยกับมันได้ แต่เราไม่มีทางทำอย่างนั้นได้เลยกับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เช่น ปลาเงิน , ปลาทอง , งูหลาม , หรือกิ้งก่าอีกัวนา ส่วนเหตุผลรองก็คือ เลี้ยงมันไว้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการจับหนู คาบสัตว์ที่ถูกยิงมาให้เจ้าของหรือเฝ้าบ้าน

หมา มีหน้าที่ที่คนมอบหมายให้ทำต่างกัน จึงเกิดการเพาะพันธุ์ที่แตกต่างกัน หมาฝรั่ง เช่น โกลเดนรีทรีฟเวอร์ มีหน้าที่ติดตามพรานไปคาบมา ดัชชุนต์ต้องตัวยาวเพื่อมุดโพรงไปล่าหนู ส่วนหมาไทย เช่น บางแก้ว ซึ่งเป็นพันธุ์ใหม่ที่ผสมพันธุ์ระหว่างหมาที่อำเภอบางแก้ว จ.พิษณุโลก กับหมาจิ้งจอก หรือหมาป่านั้นก็มีไว้เฝ้าบ้าน หรือใช้ในกิจกรรมทางทหาร

กล่าวเฉพาะหมาพันธุ์ที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังอยู่เนือง ๆ คือ ร๊อทไวเลอร์ มีถิ่นกำเนิดในอิตาลีเมื่อสองพันปีกว่ามาแล้ว กองทัพโรมันใช้หมาพันธุ์นี้เป็นสุนัขสงคราม นำมันติดตามไปทุกที่ แต่ไปขยายพันธุ์ได้ดีในเมืองร๊อทไวล์ เยอรมนี ลักษณะเด่นของร๊อทไวเลอร์ คือกรามที่แข็งแรงอย่างเหลือเชื่อ เป็นพันธุ์ที่แรงกัดหนักที่สุด สามารถขบกระดูกขาวัวใหญ่ ๆ ให้แตกได้ในการงับเพียงไม่กี่ครั้ง ลักษณะทางกายภาพที่กำยำล่ำสัน เต็มไปด้วยมัดกล้าม ทำให้มันเหมาะที่จะใช้งานในกองทัพ เป็นหมาหนึ่งในไม่กี่พันธุ์ที่ไม่เกี่ยงสภาพดินฟ้า อากาศ มนุษย์สามารถเลี้ยงร๊อทตี้ได้ในสภาพทะเลทรายไปจนถึงไซบีเรีย

ยิ่งกว่านั้นเป็นหมาฉลาด กระโหลกใหญ่ บรรจุไว้ด้วยสมองก้อนใหญ่ที่คู่มือเลี้ยงหมาของฝรั่งต่างใช้คำบรรยายตรงกัน ว่า

"highly intelligent" เป็นหมาหนึ่งในไม่กี่พันธุ์ที่สอนง่าย ภักดีต่อเจ้าของ และแน่นอน... ฉลาดที่สุด

แต่ข้อเสียของร๊อทไวเลอร์ ก็คือ มันเป็นหมาที่ไม่อดทนต่อการกดดัน โดยเฉพาะด้านจิตใจ การเลี้ยงอย่างไม่เอาใจใส่ การกำจัดเขต ล้วนเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้มันทั้งสิ้น เนื่องจากหมาพันธุ์นี้แข็งแรง และกัดได้รุนแรงกว่าหมาพันธุ์อื่น จึงต้องการการดูและเป็นพิเศษ การมีคู่มือเลี้ยงมันจะช่วยให้ปฏิบัติตัวกับมันได้ถูกต้อง อาทิช่วงวัยขนาดไหนควรพามันไปพบคนมาก ๆ เพื่อให้ไม่กลัวคน ไม่กัด ช่วงเวลาไหนควรพาไปเรียน หรือจะจัดสถานที่เลี้ยงดูหมาอย่างไรจึงจะเหมาะสม ด้วยความที่ร๊อทไวเลอร์ ภักดีต่อเจ้าของ
(ใช้คำว่า รัก นั้นน้อยไปสำหรับหมาพันธุ์นี้) เจ้าของหรือผู้เลี้ยงจึงควรรักมันด้วยความจริงใจ พูดคุยกับมัน จูบ กอดมันด้วยความจริงใจ ให้มันสัมผัสได้ถึงความรักที่มีต่อมัน เมื่อมันรักเรา เรารักมันตอบกอดจูบดูแลอย่างจริงใจและผูกพัน ความรักนั้นจะเผื่อแผ่ไปยังมนุษย์คนอื่นด้วย

ร๊อทไวเลอร์ที่เจ้าของ เลี้ยงอย่างรักใคร่จะไม่ดุร้าย และมันจะรักมนุษย์คนอื่น ๆ ด้วย เคยมีคนให้มันทำหน้าที่เป็นเพื่อนเด็กเล็กได้เมื่อเลี้ยงให้โตมาด้วยกัน ความอดทนต่ำต่อแรงกดดัน ทำให้ต้องเลี้ยงมันด้วยบริเวณกว้างพอสมควร การขังกรงตลอดเวลานับว่าไม่สมควร ยิ่งขังกันทีละสองสามตัวยิ่งเลวร้าย หมาจะเครียดและกลายเป็นดุ เห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมด ร๊อทไวเลอร์ไม่ได้ดุมากไปกว่าบางแก้วหรือบูลเทอเรีย แต่เรี่ยวแรงของมันนั้นมีมหาศาล แค่มันกัดเบา ๆ เพราะตกใจ ก็สามารถทำให้เลือดเป็นทางยาวได้แล้วสำหรับผู้ใหญ่ ลองคิดดูเถิดว่าถ้าเป็นเด็กกระดูกอ่อน ๆ จะสาหัสแค่ไหน

ร๊อทไวเลอร์ ดุเท่ากับหมาทุกพันธุ์ที่มนุษย์เลี้ยงอย่างไม่ใส่ใจ แต่สร้างความเสียหายได้มากกว่าเพราะมันแข็งแรงกว่า เจ้าของต้องเป็นคนที่แข็งแรงมากจึงจะดึงร็อตไวเลอร์น้ำหนัก 40 ก.ก.ให้อยู่ ต้องกันมันให้อยู่ห่างจากคนอื่น ๆ เพราะมีโอกาสมากเหลือเกินที่จะก่อความเสียหาย ทั้งทรัพย์สินและชีวิต



ร๊อทไวเลอร์และหมาพันธุ์อื่น ๆ จะดุหรือน่ารักนั้น ขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร และถ้าเกิดเรื่องร้ายขึ้น คนที่รับกรรมก็คงเป็นคนเลี้ยงนั่นเอง ที่เป็นคดีขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์บ่อย ๆ ในเรื่องความดุร้ายของร๊อทไวเลอร์นั้น สื่อต่าง ๆ ลืมคำนึงถึงวิธีเลี้ยงดู มุ่งเขียนข่าวแต่ด้านโหดเพื่อเรียกยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าสืบสวนลึกลงไปก็จะรู้ว่าเหตุร้ายเกือบทั้งหมดมีต้นตอมาจากวิธีการ เลี้ยงดูของคนนั่นเอง หาใช่ตัวหมาดุเองไม่

วิถีชีวิตของหมา หรือแม้แต่คน ถูกกำหนดโดยคนเลี้ยง และสภาพแวดล้อม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
จาก “เรื่องหมา ๆ” ในคอลัมน์ ขอบฟ้ากว้าง โดย ดุษฏี พนมยงค์ หนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 1383 ประจำวันที่ 16-22 ก.พ. 2550

บันทึกถึงผู้เขียน
ขอคารวะ และขอบคุณ “ครูดุษ” อย่างจริงใจ ที่ถ่ายทอดความเข้าใจอันถูกต้องชัดเจนต่อร๊อทไวเลอร์ ได้อย่างลึกซึ้งและมีคุณค่ายิ่ง ให้กับสังคมนอกวงการผู้นิยมร๊อทไวเลอร์ ได้รู้จักร็อตไวเลอร์ในอีกแง่มุมหนึ่ง นอกเหนือไปจากที่มักจะตกเป็น “จำเลยจอมโหด” ทางสื่ออยู่เนือง ๆ โดยเฉพาะข้อสรุปในเรื่องวิถีชีวิตของสุนัขที่ขึ้นอยู่กับเจ้าของ และสิ่งแวดล้อมนั้น สำคัญยิ่ง

บทความพิเศษ เรื่อง สุนัขดุ โดย โรงพยาบาลสัตว์ เอ็น.พี.

กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--นิวส์ เพอร์เฟคฯ

ข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งที่เราได้พบกันบ่อยครั้งคือการที่สุนัขที่เราเลี้ยง ไว้ทำร้ายคน หรือเด็กจนบาดเจ็บหรือถึงกับเสียชีวิต น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้เจ้าของที่เลี้ยงควรจะศึกษาอุปนิสัยและสายพันธุ์ของ สุนัข เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้อีกในอนาคต ทุกครั้งที่มีข่าวก็ดูเหมือนว่าจะมีการตื่นกลัวกันแล้วก็เงียบหายไป จนมีเรื่องครั้งใหม่ก็ตื่นเต้นกันไปอีกพักแล้วก็เงียบหายไปเช่นเดิม

การเลี้ยงสุนัขเจ้าของบางท่านไม่ได้ศึกษานิสัยและสายพันธุ์ของสุนัขให้ดี เพียงพอ แต่เลี้ยงกันตามกระแสนิยมของตลาดในเวลานั้น ๆ มากกว่า อย่างเมื่อเร็วๆ นี้สุนัขพันธุ์ฟิลา ซึ่งเป็นสุนัขที่ผสมออกมาเพื่อเป็นสุนัขที่ใช้เฝ้าระวังสัตว์เลี้ยง เช่น แกะ วัว จึงมีจุดประสงค์เพื่อมุงทำร้ายคนที่เข้าใกล้สัตว์เลี้ยง เป็นพันธุ์ที่กำลังจะได้รับความนิยม ยังดีที่มีการป้องปรามกันเสียก่อนจึงยังไม่ได้ยินข่าวว่าสุนัขพันธุ์นี้ทำ ร้ายคน หรืออย่างสุนัขพันธุ์อเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย ที่เป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้กัดกันโดยเฉพาะ ปกติสุนัขพันธุ์นี้เท่าที่หมอเคยสัมผัสมาเป็นสุนัขที่ไม่ทำอันตรายคน แต่จะทำอันตรายสุนัขพันธุ์อื่นๆ แต่ก็จะมีบางตัวที่ดุร้ายมากถ้าเจ้าของไม่สามารถควบคุมได้จะเป็นอันตรายมาก และเคยเป็นข่าวดังไปทั่วโลกว่ากัดคนตาย และในประเทศไทยก็ห้ามนำสุนัขพันธุ์นี้เข้ามาในประเทศหลังจากมีข่าว แต่ปัจจุบันก็ยังมีการเลี้ยงอยู่พอสมควร สุนัขพันธุ์ร๊อตไวเลอร์เป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ดุและมีข่าวทำอันตรายคน บ่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าสุนัขสายพันธุ์นี้ทุกตัวจะดุร้ายเช่นนั้น และสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ก็เช่นกันไม่จำเป็นว่าจะต้องดุร้ายไปหมดทุกตัว

สุนัขบางสายพันธุ์ต้องเข้าใจว่าผสมพันธุ์มาเพื่อใช้งานในวัตถุประสงค์ อะไร การใช้งานบางอย่างจำเป็นต้องการสุนัขดุ เช่น ร๊อตไวเลอร์ ฟิลา โดเบอร์แมนพินเชอร์ บ๊อกเซอร์เยอรมันเชพเพอร์ด ฯลฯ บางพันธุ์ก็เลี้ยงเพื่อความสวยงาม เช่น ชิท์สุ พูเดิ้ล ปอมเมอราเนี่ยนชิวาวา ยอร์คชายเทอร์เรีย ฯลฯ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกตัวจะต้องมีนิสัยเหมือนกัน เพียงแต่ส่วนใหญ่จะมีนิสัยใกล้เคียงกันสาเหตุที่สุนัขดุส่วนใหญ่มักเกิด เนื่องจากการเลี้ยง เช่น ไม่ค่อยได้เจอผู้คนมากๆ เพราะตลอดชีวิตของการเป็นสัตวแพทย์มากกว่า 20 ปี ไม่เคยเห็นสุนัขตัวไหนที่เล่นกับคนมากๆ แล้วดุร้าย การขังสุนัขไว้ตลอดเวลา หรือปล่อยเป็นบางเวลาเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สุนัขดุ เพราะไม่เคยได้พบปะกับผู้คน และสุนัขที่ถูกกักขังมักจะมีความระแวงต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยธรรมชาติแล้วสุนัขจะอยู่รวมกันเป็นฝูงและมักไม่ทำอันตรายพวกเดียวกัน การที่สุนัขมาอยู่ร่วมกับคนในธรรมชาติของสุนัขก็ถือว่าคนที่อยู่รอบข้างที่ เล่นด้วยก็คือสมาชิกของฝูงนั่นเอง การเล่นกับสุนัขก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สุนัขดุ เจ้าของบางท่านชอบยั่วสุนัขให้โกรธ เช่น การเขย่าหัวแรงๆล่อให้กัดสิ่งของต่างๆ ยั่วยุให้โกรธด้วยท่าทาง ใช้มือล่อให้สุนัขกัด ฯลฯ เป็นต้น

สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้สุนัขดุ เช่น ร้อนเกินไป อย่างเช่นสุนัขพันธุ์เชาเชา ที่ขุนฟูหนาเมื่อมาเลี้ยงที่เมืองไทยที่มีอากาศค่อนข้างร้อนตลอดปี พบว่าเป็นพันธุ์ที่ทำร้ายผู้เลี้ยงในอัตราที่สูงกว่าสุนัขพันธุ์อื่น มีความผิดปกติบางอย่างในตัวสุนัข เช่นมีปัญหาด้านการมอง ตัวอย่างเช่นมีขนแยงลูกตา (ขนตาน้ำ ) ตาเริ่มบอดเนื่องจากอายุหรืออุบัติเหตุทำให้กลัวและระแวงคนหรือสัตว์ที่เข้า ใกล้โรคบางอย่างก็เกี่ยวข้องกับอาการดุร้าย เช่น โรคลมชัก ( ดุร้ายเป็นบางเวลา ) เป็นต้น หรือบางตัวมีความต้องการเป็นจ่าฝูงสูง จึงพยายามข่มสัตว์หรือคนที่อยู่รอบข้างด้วยการกัดหรือทำร้ายคุณอาจจะต้องทำ ตัวเป็นเผด็จการผู้อารี คือตัดสินใจแทนสุนัข และอย่าให้สุนัขชนะคุณ ฟังดูเหมือนง่ายแต่ต้องใช้ความเด็ดขาดและเวลาพอสมควร

ทีนี้เรามาว่ากันถึงสุนัขที่ดุ ซึ่งแบ่งออกได้ 2 ประเภทคือ สุนัขดุที่เจ้าของสามารถควบคุมได้ กับสุนัขดุที่เจ้าของไม่สามารถควบคุมได้ เจ้าของต้องไม่ประมาทว่าคุมสุนัขได้ ถึงแม้ท่านจะทำประตูสักกี่ชั้นก็ตาม ความประมาทก็เป็นเหตุให้สุนัขทำร้ายคนหรือสุนัขอื่นมีให้เห็นบ่อยๆและควรรู้ ว่าสุนัข ของท่านไม่ชอบอะไร เช่น ไม่ชอบเด็ก คนที่เต่งตัวไม่เรียบร้อย ฯลฯ ถ้ามีคนที่ สุนัขไม่ชอบมาอยู่ใกล้ๆ ก็ควรระมัดระวังให้มาก ถ้าพาไปเดินเล่นนอกบ้านควรใส่สายจูงให้แน่นหนาทุกครั้ง และมั่นใจว่าสุนัขจะไม่หลุดออกจากสายจูงไปทำอันตรายผู้อื่นได้ ไม่เปิดประตูรั้วบ้านไว้ขณะที่สุนัขวิ่งเล่นในบ้าน ถ้าจำเป็นต้องเปิดประตูรับแขกก็ควรเก็บสุนัขให้เรียบร้อยก่อน ค่อยเปิดประตูรั้ว การเลี้ยงสุนัขดุ เพื่อเฝ้าบ้านก็เป็นดาบสองคมเพราะวันหนึ่งอาจจะทำร้ายสมาชิกหรือแขกผู้มา เยือน อย่างเช่นเด็กคนหนึ่งไปเยี่ยมญาติกับผู้ปกครอง ถูกสุนัขของญาติกัดจนเดินไม่ได้ไปเกือบปีต้องนั่งรถเข็นอยู่หลายเดือน เด็กต้องเสียเวลาในการเรียน เจ้าของสุนัขก็รู้สึกเป็นความผิด ก็เสียใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย เหตุเกิดก็เพราะความประมาทที่ไม่เก็บสุนัขให้ดีก่อนทั้งที่รู้ว่าสุนัขดุ

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อายุ สุนัข กับอายุคน ต่างกันแค่ไหน?

อายุ สุนัข กับอายุคน ต่างกันแค่ไหน?




อายุสุนัขกับเรา (THE BOY)

สุนัข และ สัตว์เลี้ยง อื่นๆ เจริญเติบโตเร็วกว่าคนมาก เห็นได้จากเมื่อ สุนัข คลอดออกมาไม่นานก็สามารถเดินได้แล้ว ในขณะที่คนต้องใช้เวลานานมากกว่าจึงจะเดินได้ ถ้าอย่างนั้นใน 1 ปีแรกของสุนัขเท่ากับกี่ปีของคน และเท่ากันทุกปีหรือไม่ คำตอบคือ สุนัขเจริญเติบโตแตกต่างกันในแต่ละปี

ในปีแรกร่างกาย สุนัข จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเท่ากับ 15 ปีของคนเลยทีเดียว โชว์ทรวดทรงอ้อนแอ้น เข้าสู่วัยรุ่น กำลังน่ารักน่าชัง เมื่อเริ่มเข้าปีที่ 2 เท่ากับ 24 ปี อยู่ในช่วงวัยเบญจเพส วัยคะนองก็ว่าได้

พอ สุนัข เข้าปีที่ 3,4 อายุจะเพิ่มอีกครั้งละ 4 ปี ช่วงนี้จะมากด้วยประสบการณ์ เมื่อเริ่มปีที่ 5 ขึ้นไป บวกเพิ่มอีก 5 ปีทุกครั้ง จะเห็นได้ว่าช่วงอายุคนกับ สุนัข จะห่างกันมาก ใช้เวลาเลี้ยงแค่ 5-6 ปี สุนัข ของเราก็จะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ทำอะไรก็คล่องแคล่ว ว่องไว แต่เมื่อเจริญเติบโตเร็วมากเท่าไหร่ ความชราจะมาเยือนอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ดังนั้น สุนัข ที่อายุ 10 ปีขึ้นไป เริ่มทำอะไรเชื่องช้า เนื่องจากร่างกายจะอ่อนแอลง ทำให้ติดเชื้อโรคง่ายตามไปด้วย เพราะ สุนัข เริ่มเข้าสู่วัยชรา เราจึงต้องเอาใจใส่ในการเลี้ยงดูมากขึ้น เจ้า สุนัข ตัวโปรดของคุณจะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ

เทคนิคเลี้ยงน้องหมา และวิธีมัดใจให้อยู่หมัด

โกลเด้น รีทรีฟเวอร์


เทคนิคเลี้ยงน้องหมา และวิธีมัดใจให้อยู่หมัด (ข่าวโลกสัตว์เลี้ยง)

คงจะไม่มีใครปฏิเสธว่าสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กับมนุษย์ ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ก็คือสุนัข ที่พัฒนาจากบรรพบุรุษหมาป่าสู่สุนัขบ้าน เรียกได้ว่าเป็นคู่หูกับมนุษย์มาตั้งแต่โบราณ และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สุนัขก็ยังคงมีสัญญาตญาณดั้งเดิมที่แสดงออกผ่านสายพันธุ์จะมีความต้องการที่ แตกต่างกันไป การเลี้ยงสุนัขให้เป็นเพื่อน หรือให้ได้ใจเขามาครอบครอง จึงไม่ใช่แค่การให้อาหาร และพาเขาไปเดินเล่น แต่หากต้องการมิตรภาพจากเพื่อนผู้แสนซื่อสัตย์ล่ะก็ เราจะต้องดูแลเขาอย่างไรบ้าง วันนี้ขอยกตัวอย่างนิสัยและสิ่งที่สุนัขสายพันธุ์ยอดฮิตของเมืองไทยโปรดปราน

สายพันธุ์แรกที่เราจะพูดถึงในวันนี้ คือ โกลเด้น ซึ่งเป็นสายพันธุ์ยอดฮิตและขึ้นชื่อเรื่องความสุภาพและอ่อนโยน โกลเด้น เจ้าโกลเด้นเป็นสุนัขขนาดกลาง จัดอยู่ในกลุ่ม Sporting ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาเพื่อการล่าสัตว์ในบริเวณหนองน้ำ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง กระปรี้กระเปร่า ฉลาด แต่ไม่เจ้าเล่ห์ โดยสัญชาตญาณแล้ว โกลเด้นท์จะชอลเก็บสิ่งของมาให้ และโปรดปรานการว่ายน้ำเป็นที่สุด เขาจะแกล้งคุณต่าง ๆ นานา เพื่อให้คุณสนใจแต่เขา นอกจากนี้ เขายังเป็นสุนัขรักการผจญภัยที่ขี้สงสัยเอามาก ๆ ซะด้วยสิ

ถ้าคุณอยากจะได้ใจเจ้าโกลเด้นของคุณล่ะก็ คุณต้องมอบความรักและการเอาใจใส่ต่อเขาให้มาก ๆ ที่สำคัญคุณควรมีพื้นที่บริเวณรอบ ๆ บ้านไว้ให้เค้าได้วิ่งเล่นไปพร้อม ๆ กับคุณ และแน่นอนว่าถ้าเค้าได้เล่นกับคุณในครั้งแรกแล้ว เค้าก็จะเฝ้ารอให้คุณไปเล่นด้วยอีกแน่นอน

อ้อ รู้ไว้นะ เจ้าโกลเด้นแสนน่ารักของคุณจะปลื้อมสุด ๆ ถ้าคณเกาคาง ลูบหลัง หรือลูบไหล่ให้

ส่วนการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การฉีดวัคซีน การถ่ายพยาธิ รวมไปถึงการทำความสะอาดใบหู กำจัดเห็บหมัด ตัอเล็บอย่างสม่ำเสมอ สิ่งเหล่านี้ถึงจะเป็นเรื่องอื้น ๆ แต่อย่าละเลยเชียวนะ เพราะหากคุณดูแลสิ่งเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี รับรองว่า เจ้าโกลเด้นของคุณจะต้องรัก และบูชาคุณเลยแหละ





ส่วนสายพันธุ์ที่ฮอตฮิตและน่ารักไม่แพ้โกลเด้นก็คือ ปั๊ก เจ้าตัวเล็ก หน้าสั้น ตาโปน ที่ใครเห็นก็อดชื่นชมในความน่ารักน่าเอ็นดูของมันไม่ได้ ปั๊ก จัดอยู่ในกลุ่มสุนัข pet toy ฉลาด น่ารัก อ่อนโยน ดูเรียบร้อย จริงใจ ชอบทำอะไรซ้ำ ๆ เป็นกิจวัตร และรักที่จะมีกิจกรรมร่วมกับครอบครัว ทั้งนี้ เจ้าปั๊กจะผลัดขนบ่อย อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ แต่ปั๊กเป็นสุนัขตัวเล็กที่ฉลาด ฝึกง่าย และไม่ขี้งอน

ถ้าคุณอยากจะได้ใจเจ้าตัวเล็กอย่างปั๊กนั้น คุณจะต้องรู้ว่าเจ้าตัวเล็กของคุณไม่ชอบที่จะอยู่คนเดียว กิจกรรมหลักของเขาก็คือการสนใจ สนใจ และสนใจแต่คุณเท่านั้น ปั๊กจะไม่ชอบวิ่งเล่นอะไรมากมาย เพราะหน้าสั้น ๆ จมูกบี้ ๆ ของเขาทำให้เขาหายใจไม่ทัน แต่เจ้าปั๊กของคุณต้องการแค่เพื่อนเล่นซะมากกว่า

ด้วยความที่ปั๊กเป็นสุนัขขนสั้น จึงไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย แต่อย่าได้แปลกใจไปนะ ถ้าเจ้าปั๊กจะเรียกร้องความสนใจจากคุณตลอดเวลา ที่สำคัญปั๊กกินได้ทั้งวัน ถ้าคุมไม่อยู่ล่ะก็ คุณอาจคิดว่ากำลังเลี้ยงหมูน้อยอยู่ก็เป็นได้ นอกจากนี้ ปั๊ก ยังเป็นสุนัขที่ต้องการเวลาจากเจ้าของเอามาก ๆ ถ้าคุณต้องทำงานนอกบ้านตลอดเวลา ก็คงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ เพราะเจ้าปั๊กจะกลายเป็นสุนัขที่หงอยเหงา ซึมเศร้า และไม่มีความสุข





อีกหนึ่งสายพันธุ์สุนัขที่หลาย ๆ คนอยากเลี้ยง คือ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Working dog แม้หน้าตาจะดูดุ แต่เจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ ก็จัดเป็นสุนัขน่ารักและสง่างาม แม้จะมีต้นกำเนิดจากสายพันธุ์หมาป่า แต่ไซบีเรียน ฮัสกี้ กลับสุภาพ อ่อนโยน ไว้ใจได้ และขี้อ้อน เหมาะกับเด็ก ๆ แม้บางทีเขาจะดื้อไปบ้าง แต่เขาก็มีความมุ่งมั่นเอามาก ๆ ทั้งยังรักและเชื่อฟังคำสั่งเจ้าของเอามาก ๆ เช่นกัน

สิ่งที่คุณควรทราบก็คือ ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่มีเมตาบอลิซึ่มต่ำ เขาจึงต้องการการออกกำลังกายมาก ๆ เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร ดังนั้น คุณก็ควรต้องมีพื้นที่ให้เขาวิ่งและออกกำลังกายมากพอสมควร

ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่เชื่อฟังเจ้านอายเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นคุณจะต้องทำให้เขารู้ว่าใครเป็นเจ้านาย ซึ่งนอกจากความเด็ดขาดแล้ว คุณยังต้องให้มิตรภาพแก่เขาอีกด้วย และที่แน่ ๆ เจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ของคุณจัดเป็นนักหนีเที่ยวตัวยง ดังนั้นคุณต้องระวังรั้วรอบ้านให้ดี ๆ ส่วนเรื่องการดูแลสุขภาพและอาหารนั้นสบายมาก เพราะ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ไม่ต้องการการดูแลมากมายนัก เพียงเท่านี้ เจ้าสุนัขมาดเท่ของคุณก็จะเชื่อฟังจนยอมมอบกายถวายชีวิตเลยแหละ


ยอร์คกี้ - ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย


ส่วนเจ้าตัวเล็กแสนน่ารัก ที่ถูกอกถูกใจทั้งสาวเล็กและสาวใหญ่ ต่างพากันหามาเลี้ยงเป็นเพื่อนแสนรู้คู่ใจ แน่นอนเรากำลังพูดถึง เจ้า ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย สุนัขตัวเล็ก ขนยาวสลวย แม้ว่าเดิมทีเจ้าสุนัขในกลุ่ม Pet Toy ตัวนี้จุถูกปรับปรุงสายพันธุ์มาเพื่อกำจัดหนู แต่ด้วยความน่ารักที่โดนตาโดนใจ เจ้ายอร์คกี้จึงได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนรักสุนัขพันธุ์เล็ก ด้วยสัญชาตญาณนักล่าที่ทั้งหูดี และกล้าหาญ เจ้ายอร์คกี้จึงเป็นสุนัขที่สามารถใช้เฝ้าระวังได้ หรือเฝ้าบ้านได้นั่นเอง

และคุณรู้ไว้นะว่า ยอร์คกี้ ไม่ใช่สุนัขที่เห่าพร่ำเพรื่อ ดังนั้น เมื่อเขาห่า มันจะต้องมีอะไรแน่ ๆ นอกจากเรื่องนิสัยที่ออกจะกล้าหาญเกินตัวแล้ว ยอ์คกี้ก็ยังมีนิสัยเย่อหยิ่งเล็ก ๆ อีกด้วยสิ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะฝึก สอนไม่ได้นะ

อย่างไรก็ตาม ยอร์คกี้ก็เป็นสุนัขที่รักและต้องการอยู่กับเจ้าของมากไม่แพ้พันธุ์อื่น ๆ และบางตัวก็ชอบนอนกับเจ้าของซะด้วยสิ นอกจากนี้ยังชอบไล่สัตว์ตัวเล็ก ๆ บางครั้งก็ทุ่มสุดตัวเกินเหตุ จึงต้องระวังจะเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะทำให้เขาเจ็บตัวได้ง่าย ๆ และด้วยความกล้าเกินตัว บางทีเขาก็หาเรื่องกับสุนัขใหญ่กว่าบ่อย ๆ

ส่วนเรื่องการดูแลสุขภาพ สิ่งสำคัญที่จะต้องดูแลให้ดี ก็คือ เรื่องของขน เนื่องจากยอร์คกี้เป็นสุนัขที่มีขนยาว คุณจึงควรต้องหมั่นดูแลแปรงขนให้เขาทุกวัน เพื่อความนุ่มสลวยน่ารั น่ากอด





แล้วก็มาถึง สายพันธุ์สุดท้ายสำหรับวันนี้ กับสุนัขที่ใคร ๆ ก็พากันหลงรักตาโต ๆ ขนยาว ๆ นั่นคือ เจ้าชิสุ นั่นเอง ชิสุ เป็นสุนัขในกลุ่ม Pet Toy ยอดฮิตอีกหนึ่งตัว เขามีจุดเด่นอยู่ที่ความมีชีวิตชีวาเบิกบาน และแข็งแรงกล้าหาญ บางครั้งก็หยิ่งยโสเสียด้วยสิ เขาทำทุกสิ่งด้วยความซื้อสัตย์ ใจดี เป็นมิตรง่าย แต่จะโกรธมากถ้ามีใครทำให้ตื่นตกใจ ชิสุ เป็นสุนัขที่ว่องไวมาก ชอบเห่า แต่ถ้าให้อยู่บ้านตัวเดียวก็จะเงียบ

คุณสามารถเลี้ยงชิสุได้แม้จะมีพื้นที่จำกัด เพราะเขาไม่ต้องการพื้นที่ในการออกกำลังมาก แต่สิ่งที่ควรรระวังก็คือเจ้าชิสุจไวต่ออากาศที่ร้อน เขาจะชอบไปนอนในที่ที่เขาชอบเสมอ ดังนั้น คุณจึงควรหมั่นกระตุ้นให้เขาออกกำลังบ่อย ๆ นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญในการเลี้ยงชิสุก็คือ การทำความสะอาดขน เขาต้องการการดูแลขจเป็นพิเศษอย่างดีทุกวัน มัดจุกเพื่อที่ขนจะได้ไม่ทิ่มตา และควรหยอดตาให้เขาบ่อย ๆ ด้วย เท่านี้คุณก็จะได้รับความรักและความซื้อสัตย์จากเจ้าชิสุ เรียกได้ว่าได้ใจน้องหมาไปเต็ม ๆ นั่นเอง

ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงพันธุ์ไหน ๆ เขาก็ต้องการความรักความอบอุ่นจากเจ้านายและเจ้าของ เมื่อเขาได้รับความรักความอบอุ่นจากผู้เลี้ยงแล้ว เขาก็พร้อมที่จะมอบทั้งความรักและความซื้อสัตยให้ เปรียบเมหือน "เพื่อนแท้" ที่มอบกายถวายชีวิตให้ได้


รวมเรื่องสัตว์เลี้ยง ทั้ง สุนัข แมว ปลา ฯลฯ พร้อมวิธีดูแลสัตว์เลี้ยง คลิกเลย

คลิ กอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ตำนาน โบราณ...ว่าด้วยเรื่อง น้องหมา

ตำนานโบราณ...ว่าด้วยเรื่อง น้องหมา
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด


จากหลายตำรากล่าวว่า การเลี้ยงสุนัขเป็นสิ่งมิ่งมงคล เป็นความฝันอันสูงสุดของการอวดเบ่งบารมีแต่โบราณ แต่ตำนานโบราณจะมีอะไรบ้าง เรามาติดตามกันดีกว่าค่ะ

1. การเลี้ยงสุนัขสีดำหูขาว ถือว่าส่งเสริมให้เกิดสริริมงคล ช่วงดลบันดาล ให้คนเลี้ยงร่ำรวย และได้เป็นขุนนาง, เลี้ยงสุนัขสีเหลืองมีขาคู่หน้าสีขาวจะทำให้ได้รับโชคลาภ, เลี้ยงสุนัขสีขาวมีหางสีดำจะทำให้เจริญก้าวหน้า

2. ถ้าเราเดินตามถนนแล้วพบสุนัข แปลกหน้าเดินตามเรา และมาขออาศัยอยู่ที่บ้านด้วย เป็นนิมิตหมายว่าหัวหน้าครอบครัวของเราจะกลายเป็นคนมั่งคั่ง ร่ำรวย

3. สุนัขที่เห่าเก่ง ๆ และชอบไล่กัดผู้คน แต่ถ้ามาเจอคนปีขาล สุนัขตัวนั้นจะเกรงอำนาจ และยอมสงบนิ่ง ด้วยความเกรงกลัว

4. การแบ่งอาหารและน้ำให้แก่ สุนัขจรจัดที่หิวโหย หรือมีเมตตาให้เข้ามาหลบฝนในชายคาบ้าน ถือว่าเป็นการทำบุญทำทานที่ให้อานิสงส์ผลบุญแก่ตัวเรามหาศาล

5. คนเกิดปีจอ ต้องเลี้ยงดูสุนัขในบ้านอย่างดี เพราะจะนำมาซึ่งความสุขความเจริญยิ่งใหญ่ในชีวิต ด้วยสุนัขเป็นสัตว์นักษัตรประจำปีเกิด

สุนัข สู้ชีวิต มนุษย์อย่างเรา อย่ายอมแพ้มัน!

สุนัขสู้ชีวิต มนุษย์อย่างเรา อย่ายอมแพ้มัน!
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
ใครที่คิดว่าชีวิตนี้ลำบากเหลือเกิน ทำไมโลกช่างโหดร้ายกับเราอย่างนี้... บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ งานก็ไม่มี เงินก็ยิ่งไม่มี แถมยังอกหัก รักคุด ตุ๊ดเมินอีก โอ้ย...!!! มีอะไรที่แย่กว่านี้อีกไหม ท้อแท้... ท้อแท้... ท้อแท้สุดๆ หมดใจไม่อยากทำอะไรต่อไปแล้ว จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกัน...!!!

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังรู้สึกแย่ ท้อแท้ สิ้นหวัง หมดกำลังใจ จนไม่อยากทำอะไร รู้สึกว่าตัวเองสู้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ทั้งๆ ที่บางทีคุณอาจยังไม่เคยคิดที่จะเริ่มต้นสู้เลยด้วยซ้ำ (ใช่ไหม) ลองดูภาพน่ารักๆ ของเจ้าสุนัข 2 ขาที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา สู้ทนใช้ชีวิตพิการด้วยความมุ่งมั่นตัวนี้ดู แม้มีเพียง 2 ขาผิดจากสุนัขธรรมดาทั่วไป แต่ก็ไม่เคยนอนรอความตาย แถมยังทำอะไรต่อมิอะไรได้ตั้งหลายอย่าง เรียกได้ว่าเป็น "หมาสู้ชีวิต" เลยก็ว่าได้

การแก้ปัญหากลิ่นเหม็นจากการเลี้ยงสุนัข

การขับถ่ายของสุนัขโดยทั่วไปจะไม่ขับถ่ายประจำอยู่กับที่ แต่ถ้าเราฝึกสอนในระยะแรก ๆ ให้เขาขับถ่ายประจำที่ที่เรากำหนดให้ เราจึงควรกำหนดที่ขับถ่ายโดยการทำกระบะสำหรับให้เขาขับถ่ายควรจะทำให้ พื้นที่กว้าง ๆ หน่อย ในกระบะควรจะมีทรายผสมกับทรายแมวชนิดเกร็ด (ทรายแมวชนิดเกร็ดถ้าผสมกับทรายแล้วจะไม่ติดเท้าสัตว์ไปเลอะนอกกระบะ) เพื่อช่วยดูดซับกลิ่น ที่พื้นกระบะ เมื่อเขาขับถ่ายในกระบะเสร็จควรจะมีการกลบด้วยทรายผสมกับทรายแมวชนิดเกร็ด เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นและแมลงวันเข้ามาตอมมูลและปัสสาวะของสุนัข


บริเวณที่นอนของสุนัข ถ้ามีกลิ่นเหม็นสาบ, ใช้สเม็คไทต์หรือไคลน็อพติโลไลท์หว่านคลุมแล้วใช้ไม้กวาดเกลี่ยให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที และทำการกวาดออก หรือดูดด้วยเครื่องดูดฝุ่น ฝุ่นที่ดูดได้นำไปใส่ดินปลูกต้นไม้เพื่อเป็นปุ๋ยได้ กลิ่นที่นอนของสุนัขจะลดลงและหายไปในที่สุด ถ้ากลิ่นยังไม่หายให้ทำซ้ำอีกครั้งดังวิธีข้างต้น

ใช้ไคลน็อพติโลไลท์อัตรา 200 กรัม ผสมน้ำ 1 กะละมัง (15-20 ลิตร กวนละลายให้เข้ากันดี ใช้อาบสุนัข กลิ่นเหม็นสาบที่ติดตัวสุนัขจะหายไป วิธีการนี้จะช่วยลดจำนวนของเห็บ หมัด ในตัวสุนัขได้ด้วย

บริเวณคอกสัตว์อื่น ๆ นอกจากสุนัขก็ใช้ได้ หากจุดใดมีกลิ่นเหม็น ให้หว่านสเม็คไทต์หรือไคลน็อพติโลไลท์ลงไปบริเวณนั้น ประมาณ 30 นาทีกลิ่นก็จะจางลงและหายไปในที่สุด

หากท่านต้องการรายละเอียด หรือวิธีใช้เพิ่มเติมกรุณาติดต่อชมรมฯ

การกำจัดเห็บ หมัด สุนัขอย่างปลอดภัย

สวัสดีค่ะ ท่านสมาชิกชมรมและผู้ที่เยี่ยมชม ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ทุก ๆ ท่าน วันนี้ดิฉันมีเกร็ดความรู้เล็ก ๆน้อย ๆ สำหรับผู้ที่เลี้ยงสุนัขไว้ในบ้าน ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “เห็บหมา” กิน เลือดหมาเป็นอาหาร เลือดคนหรือเลือดแมวก็กินได้ ตอนมันกินเลือดจนอ้วน สัตวแพทย์ บอกว่าอย่าไปบี้ให้เลือดมันออก เพราะเลือดมันมีไข่เต็มไปหมด ถ้าเลือดที่ตกค้างอยู่ตามพื้นก็จะกลายเป็นตัวอ่อนได้หมด เวลามันกินเลือดหมาจนอิ่มแล้ว มันจะต้องไปพักย่อยอาหารโดยทิ้งตัวให้ร่วงจากหมา แล้วคลานขึ้นที่สูงหาที่ออกไข่ พยายามมองดูตามมุมบ้านเหนือบริเวณที่หมานอนอยู่ จะเห็นเห็บไปฟักไข่อยู่แถวนั้น ถ้าหมามีที่วิ่งมาก ๆ เห็บจะไม่มากเท่าไร ถ้าหมาถูกขังกรง เห็บจะแยะมาก เพราะเห็บใหม่จะกลับมาเกาะได้ง่ายมาก ต้องหมั่นทำความสะอาดกรงอาจช่วยได้ หา วิธีหยดยา หรือ ฉีดยา ซึ่ง จะต้องทำเป็นประจำทุกเดือน การหยดยานั้นสามารถซื้อยาได้ตามร้าน pet shop มีหลายยี่ห้อราคาต่างกันไปตามน้ำหนักตัว ซึ่งยาเหล่านี้ราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าเราหมั่นอาบน้ำให้สุนัข บ่อย ๆ ทุกสัปดาห์ ก็จะช่วยป้องกันเห็บได้

แต่สุนัขบางตัวที่มีเห็บ หมัด เยอะมาก ๆ เราก็ได้หาผลิตภัณฑ์เสริม ที่จะมาช่วยกำจัดเห็บ ที่มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ และสัตว์เลี้ยง รักษาโรคผิวหนัง ขี้เรื้อนในสุนัข และยังประหยัดต้นทุน ด้วย “พรีเว้นท์” หรือ “น้ำสัมควันไม้” ของชมรมเกษตรปลอดสารพิษ ด้วยการ เวลาที่เราอาบน้ำให้กับสุนัข เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำ พรีเว้นท์ 1 ลิตร ผสมน้ำ 20 ลิตร แล้วราดไปที่ตัวสุนัขให้ทั่วทั้งตัว แล้วขยี้เบา ๆย้อนขนสุนัข ตามซอกเล็บ ซอกหู แล้วทิ้งไว้ 1 วัน จากนั้นล้างออกโดยไม่ต้อง ฟอกแชมพู แล้วก็เสร็จตัวให้แห้ง แต่สุนัขจะมีกลิ่นน้ำสัมควันไม้ซักหน่อยนะค่ะ แต่ด้วยกลิ่นของน้ำส้มควันไม้จะช่วยกำจัด ไล่เห็บ หมัดออกจากตัวสุนัข และรักษาผิวหนังของสุนัข ทำแบบนี้ซัก 3-4 ครั้ง ติดต่อกัน นอก จากอาบที่ตัวสุนัขแล้ว ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุด นำพรีเว้นท์ 500 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นตามพื้นรอบบริเวณบ้าน กรงสุนัข หรือ บริเวณที่สุนัขนอนอยู่ ตามซอก มุม บ้าน เพื่อกำจัด เห็บตัวเล็ก ไข่ อ่อน ที่ฟังตัวอยู่ และสัตว์เลื้อยคลานไม่ให้เข้ามาอาศัยตามบ้านให้หมดไป



หากผู้ที่สนใจท่านใดที่ต้องการกำจัด เห็บ หมัด ตะขาบ ปลวก มด สัตว์เลื้อยคลาน และแมลงรำคาญต่าง ๆ ในบ้านเรือนของท่านอย่างปลอดสารพิษ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ





นาง สาวเพชรรัตน์ มีมา (นักวิชาการ Tel. 089-444-2366)

ชมรม เกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com

ลำดับความฉลาดของ สุนัข หมา

ลำดับความฉลาดของ สุนัข หมา

ลำดับไอคิวหมา รู้หรือเปล่าว่าบรรดาสัตว์ทั้งหลายน่ะ เค้าก็มีสติปัญญาเหมือนกับเราๆ นี่แหละ เพียงแต่ว่าสัตว์แต่ละชนิดอาจจะมีไม่เท่ากัน
และมีความถนัดหรือความสามารถเฉพาะตัวแตกต่างกันไปเท่านั้นเอง
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมสัตว์ชนิดหนึ่งจึงทำอะไรๆ
ได้มากกว่าสัตว์อีกชนิดหนึ่งนั่นแหละ


ขอยกตัวอย่างเช่น เจ้าลิงชิมแปนซี ชิมแปนซีเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก
จะว่าฉลาดที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งหมดบนโลกนี้ (ยกเว้นมนุษย์) ก็ว่าได้
เคยมีคนทำการทดสอบโดยให้ลิงชิมแปนซีไปทำข้อสอบ Toefl ด้วยซ้ำ
เชื่อมั้ยคะ ว่าเจ้าลิงที่ไม่เคยเรียนหนังสือนี่น่ะ สามารถทำข้อสอบ Toefl
ได้ถึง 400 กว่าคะแนนทีเดียว ซึ่งเป็นคะแนนที่มากกว่าเราๆ บางคนทำได้ด้วยซ้ำ


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ว่ามาตั้งนานเนี่ย
เราไม่ได้ตั้งใจจะมาพูดถึงไอคิวของลิงชิมแปนซีกันหรอก
แต่เรากำลังจะพูดถึงการจัดลำดับไอคิวสุนัขกันต่างหากล่ะ

ดร.สแตนเลย์ โคเรนท์ แห่งมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย
ในแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ได้จัดอันดับไอคิวสุนัข
ตามความสามารถในการเรียนรู้จากการฝึก
สุนัขของคุณจะอยู่อันดับไหน ลองไปดูกันดีกว่า


1. คอลลี่
2. พุดเดิล
3. เยอรมัน เชฟเฟอร์ด
4. โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
5. โดเบอร์แมน
6. เชทแลนด์ ชีพด็อก
7. ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์
8. ปาปิยอง
9. ร็อตไวเลอร์
10. ออสเตรเลี่ยน แคทเทิลด็อก
11. เวลช์คอร์กี้
12. มินิเอเจอร์ ชเนาเซอร์
13. อิงลิช สปริงเกอร์ สแปเนียล
14. เบลเจียนเทอร์เชน
15. เบลเจียนชีพด็อก
16. คอลลี่ คีชอนด์
17. เยอรมัน ชอร์ทแฮร์ พอยเตอร์
18. อิงลิชค็อกเกอร์ สแปเนียล, สแตนดาร์ด ชเนาเซอร์
19. บริตตานี สแปเนียล
20. คอกเกอร์ สแปเนียล
21. ไวมาราเนอร์
22. เบลเจียน มาลิโนส์, เปอร์นีส เมาน์เทนด็อก
23. ปอมเมอเรเนียน
24. ไอรีสวอเตอร์ สแปเนียล
25. วิสซิลล่า
26. คอร์ดิแกน เวลช์ คอร์กี้
27. พูลิ, ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย
28. ไจแอนท์ ชเนาเซอร์
29. แอร์เดล
30. บอเดอร์ เทอร์เรีย
31. เวลช์ สปริงเกอร์ สแปเนียล
32. แมนเชสเตอร์ เทอร์เรีย
33. เวลช์ สปริงเกอร์ สแปเนียล
34. ฟิลด์ สแปเนียล, นิวฟาวแลนด์, ออสเตรเลียน เทอร์เรีย, เบียร์เด็ด คอลลี่
35. ไอริส เซทเตอร์
36. นอร์วีเจียน เอลค์ฮาวด์
37. ซิลกี้ เทอร์เรีย, มินิเอเจอร์ พินช์เชอร์
38. นอร์วิด เทอร์เรียล
39. ดัลเมเชียน
40. ฟ็อก เทอร์เรีย
41. ไอริช วูล์ฟฮาวด์
42. ออสเตรเลียน เชฟเฟอร์ด
43. ซาลูกิ, ฟินนิช สปิทซ์, พอยเตอร์
44. อเมริกัน วอเตอร์ สแปเนียล
45. ไซบีเรียน ฮัสกี้
46. อิงลิช ฟ็อกซ์ฮาวด์, อเมริกัน ฟ็อกซ์ฮาวด์, เกรย์ฮาวด์
47. สก็อตติช เดียฮาวด์
48. บ็อกเซอร์, เกรทเดน
49. ดัชชุนต์
50. อาลาสก้า มาลามุท
51. วิพเพท
52. โรดีเชียน ริดจ์แบ็ค
53. ไอริช เทอร์เรีย
54. บอสตัน เทอร์เรีย, อากิตะ
55. สกาย เทอร์เรีย
56. นอร์โฟล์ค เทอร์เรีย
57. ปั๊ก
58. เฟรนช์บูลด็อก
59. มอลทีส เทอร์เรีย
60. อิตาเลียน เกรย์ฮาวด์
61. ไชนีส เครสเต็ด
62. เจแปนนีส ชิน
63. โอลด์ อิงลิช ชีพด็อก
64. เกรท พิเรนี
65. สก็อตติช เทอร์เรีย, เซนต์เบอร์นาร์ด
66. บูล เทอร์เรีย
67. ชิวาว่า
68. ลาซา แอปโซ
69. มาสทิฟฟ์
70. ชิสุ
71. บาสเซท ฮาวด์
72. บีเกิล
73. ปักกิ่ง
74. บลัดฮาวด์
75. บอร์ซอย
76. เชาเชา
77. บูลด็อก
78. บาเซนจิ
79. อาฟกัน ฮาวด์
รูปพันธ์คอลลี่ครับ

108dog.com 108dog.com 108dog.com 108dog.com 108dog.com 108dog.com

นำมาจากFW mail
รวบรวมบทความโดย http://108dog.com

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สุนัขเราน้ำหนักมากไปหรือเปล่านะ

สุนัขเราน้ำหนักมากไปหรือ เปล่านะ




เจ้าของสุนัขทั้งหลายมักจะพบปัญหาว่าจะ รู้ได้อย่างไรว่าสุนัขของเขามีน้ำหนักมากเกินไป หรือถ้าน้ำหนักมากเกินไป แล้วเขาควรต้องทำอย่างไร ต่อไปนี้จะเป็นสองขั้นตอนที่จะพาคุณเข้าไปพบกับวิธีการแยกแยะปัญหาเกี่ยวกับ น้ำหนักของสุนัข และแนะนำวิธีการในการลดน้ำหนักให้สุนัข รวมทั้งจะบอกได้ด้วยว่าสุนัขอันเป็นที่รักของคุณนั้น เค้ามีน้ำหนักเกินพอดีไปแล้ว

วิธีการแรกก็คือ ให้มองสุนัขจากด้างนนแล้วดูว่าเขามีเอวหรือไม่ ในสุนัขที่มีน้ำหนักกำลังดีนั้น คุณจะเห็น เอวของเค้าอย่างชัดเจน จากนั้นให้วางมือทั้งสองข้างของคุณลงบนซี่โครงของเขาให้แน่น คุณควรจะรู้สึกได้ว่ากำลัง สัมผัสซี่โครงเค้า แต่ถ้าคุณไม่รู้สึกถึงซี่โครงของเขา แสดงว่าสุนัขของคุณน้ำหนักมากเกินไปแล้ว แต่ถ้าคุณสามารถมองเห็น แนวซี่โครงของเค้าได้ชัดโดยไม่ต้องใช้มือจับ นั่นก็แสดงว่าเค้าผอมไปหรือมีน้ำหนักน้อย เกินไปนั่นเอง

ภาวะน้ำหนักเกินเป็นโรคเกี่ยวกับโภชนาการที่พบ เสมอ โดยเฉพาะในประเทศแถบตะวันตก น้ำหนักที่มากเกินไป จะทำให้สุนัขมีความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆมากขึ้น หากสุนัขคุณมีน้ำหนักเกิน คุณควรปฎิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อ ช่วยให้สุขภาพเค้าดีขึ้นและลดน้ำหนักลงอย่างได้ผล



เลิกให้ของว่างหรืออาหารที่เหลือจาก ยนโต๊ะ เมื่อเค้าจำต้องอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก

การที่สุนัขทีน้ำหนักเกินมักเกิดจากกิน อาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย ดังนั้นคุณควรที่จะแบ่งอาหาร ที่จะให้เขากินในแต่ละวันออกเป็นมื้อเล็กๆวันละ 2-4 มื้อ และอย่าให้อาหารนอกมื้อเด็ดขาด หมั่นชั่งน้ำหนัก ของเค้าให้เป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งและให้เลือกชั่งในเวลาใดเวลา หนึ่งของวันเป็นเวลาประจำ ชั่งน้ำหนักเขา อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จดบันทึกวัน เวลา และน้ำหนักที่ชั่งได้เก็บไว้เสมอ

หากคุณเลี้ยงสุนัขมากกว่าหนึ่งตัว ควรจะให้อาหารเค้าทีละตัว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เจ้าตัวที่กำลังลดน้ำหนักไป แย่งอาหารจากจานของตัวอื่น ให้คุณให้อาหารสุนัขของคุณก่อนที่คุณจะรับประทานอาหาร และให้พวกเค้าอยู่ห่างๆคุณหรือ ให้อยู่กันคนละห้องไปเลยขณะเวลาที่คุณกำลังรับประทานอาหารอยู่ เพื่อเป็นการป้องกันการอ้อนขออาหารของเจ้าตาใส และเพื่อเป็นการป้องกันคุณใจอ่อนด้วย

ให้เข้มงวดกับสุนัขคุณในเรื่องกิจกรรมนอก บ้านเพื่อป้องกันไม่ให้เค้าไปคุ้ยหาเศษขยะตอนที่อยู่นอกบ้าน ดังนี้ถังขยะ ทั้งในบ้านและนอกตัวบ้านก็ควรจะปิดฝาให้เรียบร้อยที่สุดด้วย

คุยกับเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันว่าสุนัข ของคุณกำลังลดน้ำหนักอยู่ เพื่อไม่ให้พวกเพื่อนๆของคุณให้อาหารสุนัขของคุณ เพิ่มเติมอีก

ให้คุณเตรียมน้ำที่ใหม่และสะอาดไว้รอ สุนัขตลอดเวลา

ตรวจร่างกายเป็นประจำอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
หมั่น พาสุนัขไปออกกำลังกายเป็นประจำ ค่อยๆเริ่มด้วยการออกกำลังเป็นระยะเวลาสั้นๆก่อน แล้วค่อยๆขยายเวลา ให้มากขึ้นทีละน้อย ซึ่งคุณอาจจะเริ่มต้นจากการเดิน และจากนั้นเมื่อเห็นสุนัขของคุณกำลังเริ่มสนุกกับการออกกำลังที่มากขึ้น ก็ให้เปลี่ยนไปเป็นการเล่นเกมส์ที่ต้องมีวิ่งประกอบด้วย อย่างเช่น เล่นแย่งของกัน หรือหลอกล่อของเล่นกันไปมา

คู่มือน้ำหนักสำหรับสุนัข

คู่มือน้ำหนักสำหรับสุนัข


บางครั้งเป็นเรื่องยากที่จะบอกออกมาได้ว่าน้ำหนักของสุนัขที่คุณเลี้ยงควรจะ เป็นเท่าไหร่ดี และด้วยมนุษย์อย่างเรา น้ำหนักเค้าก็จะเพิ่มขึ้นทีละน้อยๆ ต่อไปนี้จะเป็นคู่มือน้ำหนักสำหรับสุนัขพันธุ์บางพันธุ์ที่คนนิยมเลี้ยง ถ้าคุณไม่เห็นพันธุ์ของสุนัขที่คุณเลี้ยงอยู่ในรายการนี้ ให้ตรวจเอาจากน้ำหนักของพันธุ์เดียวกันที่มีขนาดใกล้เคียงกับร่างกายสุนัข ของคุณมากที่สุด หรือหากคุณยังมีคำถาม ให้ถามเพิ่มเติมจากสัตว์แพทย์

สุนัขพันธุ์
ขนาดเล็ก


สุนัขพันธุ์
ขนาดกลาง


สุนัขพันธุ์
ขนาดใหญ่


สุนัขพันธุ์
ขนาดใหญ่มาก

พันธุ์ชิวาวา
4 ปอนด์


พันธุ์ค๊อก เกอร์
สแปเนียล
25 ปอนด์


พันธุ์ไซบี เรียน ฮัสกี้ 50 ปอนด์


พันธุ์ โอลด์ อิงลิช ชีพด๊อก
95 ปอนด์

พันธุ์ ปักกิ่ง
9 ปอนด์


พันธุ์ บีเกิล
25 ปอนด์


พันธุ์
ไอ เรเดล เทอร์เรีย
50 ปอนด์


พันธุ์ เกรทเดน 130 ปอนด์

พันธุ์
มิ เนียเจอร์
สเนาเซอร์
15 ปอนด์


พันธุ์บริ ตทา
นีสแปเนียล
35 ปอนด์


พันธุ์ พ๊อยน์เตอร์ 65 ปอนด์


พันธุ์ เซนต์
เบอร์นาร์ด
165 ปอนด์

พันธุ์บอส ตั้นเทอร์เรีย
19 ปอนด์





พันธุ์
ลาบ ราดอร์
รีทรีฟเวอร์
75 ปอนด์

การเลือกสัตวแพทย์

การเลือกสัตวแพทย์


การเลือกสัตว์แพทย์ให้ถูกต้องก็เป็น เรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด ที่คุณจะทำเพื่อสุนัขของคุณได้ เพื่อช่วยให้เค้ามีอายุยืนและมีสุขภาพดี สัตว์แพทย์นั้นควรจะเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญทางด้านเทคนิค มีความรู้เกี่ยวกับ เทคนิคหรือวิธีการรักษาแบบใหม่ๆ และมีความมุ่งมั่นอย่างอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ที่จะช่วยสุนัขของคุณไปจนกว่า เค้าจะหายป่วย คุณจะต้องมั่นใจว่าสัตว์แพทย์สามารถอธิบายให้่คุณสามารถเข้าใจได้ และสามารถตอบคำถามของคุณได้ด้วย เพื่อที่คุณจะสามารถรับผิดชอบในการตัดสินใจสำหรับสุนัขของคุณได้ ลำดับต่อไปจะเป็นวิธีง่ายๆสำหรับการเลือก สัตว์แพทย์

จะหา สัตว์แพทย์ได้อย่างไร
หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในการ เลือกสัตวแพทย์คือต้องเลือกคนที่คุณไว้ใจ เพราะสุนัขของคุณ บอกคุณไม่สามารถพูด บอกคุณได้ว่าเค้ารู้สึกอย่างไรและคุณก็จะไม่มีเวลามาเฝ้าได้ตลอดเวลาว่าหมอ ทำอะไรกับสุนัขของคุณหลังจากที่คุณเดินกลับออกจากคลินิกไปแล้ว ลองถามจากเพื่อนๆ เพื่อนบ้านที่อยู่ในละแวกเดียวกัน หรือเพื่อนร่วมงานเพื่อหาคำแนะนำที่ดีที่สุด คนรักสัตว์คนอื่นๆจะช่วยบอกคุณได้ว่าสัตว์แพทย์คนไหนที่มีความรู้ความสามารถ มีเมตตา และทำงานหนักเพื่อรักษาสัตว์ ทุกตัวให้หายจากไม่สบาย

คำถาม แบบไหนที่จะใช้ประเมินความสามารถของสัตว์แพทย์ว่าเพียงพอแก่การรักษาหรือไม่
คุณควรพาสัตว์ เลี้ยงของคุณไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์หรือเปล่า? ควรเลือกสถานที่รักษาให้เหมาะกับสัตว์เลี้ยง ของคุณ เช่น ไม่ควรพาสุนัขไปรักษาตามคลินิคที่เชี่ยวชาญแต่การรักษานกหรือสัตว์เลื้อย คลาน
คลีนิคหรือโรงพยาบาบแห่งนั้นตั้งอยู่ในที่ที่คุณไป มาสะดวกไหม เวลาเปิดทำการของเขาตรงกับเวลาว่างของคุณ หรือไม่ ถ้าคุณไม่ค่อยมีเวลา พยายามหาร้านที่เปิดในช่วงเย็นหรือวันเสาร์อาทิตย์ โรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ๆมักจะเปิดทำการ 24 ชั่วโมง
พนักงานอื่นๆใน คลินิกหรือโรงพยาบาลเหล่านั้นพอจะมีความรู้และให้การช่วยเหลืออะไรบ้างหรือ เปล่า? ดูให้แน่ว่าผู้ช่วยสัตว์แพทย์ในคลินิกแห่งนั้นๆรู้งาน หรือมีการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไรหรือไม่ พนักงานได้รับการฝึกฝนอย่างถูกวิธีและมีเครื่องมือแพทย์ระดับมืออาชีพไว้รอง รับการใช้งานหรือไม่
สัตว์แพทย์ที่คุณพาสุนัขไปรับการ รักษา จะแนะนำให้คุณพาสุนัขไปพบผู้ชำนาญการเฉพาะทางเพราะสภาพอาการ ของเค้าต้องการการรักษาเช่นนั้นหรือไม่? ทุกวันนี้ผู้ชำนาญเฉพาะทางเกี่ยวกับสัตว์ก็มี ผู้ชำนาญทางด้านวิสัญญี ทางด้าน พฤติกรรมสัตว์ ทางด้านโรคหัวใจ ทันตแพทย์ ทางด้านผิวหนัง ทางด้านการดูแลเหตุการณ์ฉุกเฉินและเร่งด่วน ทางด้าน การใช้ยารักษาภายใน ทางด้านประสาท ทางด้านเนื้องอก ทางด้านจักษุ การฉายรังสี และศัลยกรรม แต่ละสายงานที่ว่ามานี้ ล้วนแล้วแต่ต้องมีใบรับรองการประกอบวิชาอาชีพพิเศษ เกินกว่าที่จะมีแค่ใบประกอบโรคศิลป์เช่นสัตว์แพทย์ธรรมดาใบเดียว
ที่ว่ามาทั้งหมด ข้างต้นน่าจะเป็นส่วนช่วยให้คุณสามารถเลือกสัตว์แพทย์ให้สุนัขของคุณได้ ต้องมั่นในว่าเขาคือคน ที่คุณสามารถปรึกษา ถามคำถามและถามค่ารักษาพยาบาลได้ สิ่งสำคัญคือคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

สุนัขอายุมาก

สุนัขอายุมาก


สุนัข ที่มีอายุมากๆนั้นมีความต้องการเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ร่างกายของเค้ากำลังเริ่มจะเชื่องช้าลงอันเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึงความ เหนื่อยอ่อนและชีวิตกำลังเริ่มย่างก้าวเข้าไปหาจุดสิ้นสุดแล้ว ความมีอายุยืนของสุนัขนั้นมีขึ้นได้จากสาเหตุที่กว้างมาก และยังขึ้นอยู่กับแต่ละพันธุ์ด้วยแม้ว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ด้วยก็ตาม จุดเริ่มต้นชีวิตที่ดีนั้น ก็คือการดูแลอย่างถูกวิธีและรวมถึงการให้การโภชนาการที่ถูกต้องนับตั้งแต่ เวลาที่เค้าเป็นลูกสุนัขตลอดจนเวลาที่เค้าโตขึ้นมา สิ่งเหล่านี้จะดีติดตัวสุนัขไป และมีส่วนทำให้เค้ามีชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงไปยาวนานแม้เค้าแก่ตัวลงก็ตาม
เมื่อ คุณอยู่กับเค้าทุกๆวัน คุณจะไม่สังเกตเห็นถึงความชราของเค้าที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นทีละนิดหรอก แต่หากคุณให้การดูแลกับเค้าให้มากขึ้นไปอีกนิด คุณจะสามารถทำให้สุนัขที่มีอายุมากๆของคุณนั้นมีความสบาย และด้วยการหมั่นพาเค้าไปตรวจกับสัตว์แพทย์เป็นประจำ เมื่อรวมกับข้อที่ควรคำนึงประการอื่นๆแล้วคุณจะสามารถทำให้เค้ามีสุขภาพที่ ดีไปเรื่อยๆจนกระทั่งก่อนวันสุดท้ายของเค้า หากว่าเค้าอายุได้ 8-9 ปีแล้วก็ถือได้ว่าสุนัขของคุณเริ่มเข้าสู่วัยที่มีอายุมากแล้ว ในสุนัขพันธุ์ใหญ่มากๆนั้นอาจจะคำนวณว่าเค้าอยู่ในช่วงชีวิตนี้เมื่อเค้ามี อายุได้ประมาณ 8 ปี หรือเร็วกว่านั้น ในขณะที่สุนัขพันธุ์เทอร์เรียและสุนัขพันธุ์ผสมนั้นจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ยาวนานที่สุดคือประมาณ 15 ปีหรือมากกว่านั้น

เชื่อง ช้าลง
ร่าง กายของเค้าในอายุขนาดนี้ อวัยวะในร่างกายที่สำคัญๆก็เริ่มเสื่อมสภาพลงทีละน้อยๆ เค้าจะกระฉับกระเฉงน้อยลงกว่าเดิม ดังนั้นเค้าจะต้องการอาหารที่มีพลังงานน้อยๆ รวมถึงความสามารถในการทำงานของอวัยวะต่างๆก็มีประสิทธิภาพลดน้อยลงกว่าเดิม
เพราะ ร่างกายเค้าเชื่องช้าลง ร่างกายเค้าจะไม่สามารถพร้อมสำหรับการรับมือกับโรคและความเค้นอื่นๆ ดังนั้นให้รักษาระดับของสิ่งเหล่านี้ไว้ให้ต่ำที่สุด คุณจะต้องใช้ความอดทนที่จะรับมือกับสุนัขที่มีอายุมากๆแล้วของคุณเมื่อเค้า เชื่องช้าลงกว่าเดิม เค้าอาจจะไม่สามารถได้ยินหรือเห็นคุณได้ถนัดนัก การที่เค้าไม่ตอบสนองคุณไม่ได้หมายความว่าเค้ามีเจตนาที่จะไม่เอาใจใส่คุณ หรอกนะ สุนัขของคุณในตอนนี้น่ะต้องการความช่วยเหลือจากคุณเพิ่มอีกนิดและเค้าก็ต้อง การเพื่อนด้วย อดทนไว้ เพราะเค้าสมควรได้รับการดูแลจากคุณ

การทำ ให้สุนัขที่มีอายุมากมีความสุขและสบายขึ้น
เนื่องมาจากสุนัขที่อยู่ในช่วง ชีวิตเช่นนี้จะมีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย เค้าจะใช้เวลานานมากขึ้นกว่าจะล้มตัวลงนอนสักที่ได้ ให้มั่นใจว่าตลอดเวลานั้น เค้าไม่ได้นอนลงในที่ที่เย็น ชื้น หรือในที่ที่รับความร้อนจากแสงอาทิตย์โดยตรง ให้คุณดูแลที่นอนของเค้าให้อบอุ่น เรียบและรองให้นุ่มด้วยเบาะอย่างดี หากเค้านอนนานๆบนพื้นที่ที่ไม่เรียบ ขรุขระ หรือแข็งเกินไป โดยเฉพาะกับกรณีที่สุนัขของคุณนั้นมีน้ำหนักมาก ก็อาจจะก่อให้เกิดหนังด้านตรงส่วนที่กระดูกกดทับ อย่างเช่นตรงข้อศอกหรือข้อเท้าของเค้า อันเป็นสาเหตุให้เกิดแผลและติดเชื้อได้
ให้ดูด้วยว่าเค้า สามารถไปยังที่นอนเค้าได้ง่ายๆ หากที่นอนเค้าอยู่ชั้นบนและเค้ามีปัญหาในการเดินขึ้นบันไดให้คุณหารั้วมากัน ไว้ไม่ให้เค้าขึ้นชั้นบนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วจัดที่นอนไว้ชั้นล่างให้เค้าแทน อย่าลืมว่าสายตาของสุนัขในวัยนี้นั้นเริ่มจะมองเห็นสิ่งต่างๆได้ไม่ดีนัก รวมทั้งการได้ยินและการจับทิศทางก็ไม่ดีเหมือนเก่าแล้วด้วย นั่นจึงหมายความว่าสุนัขของคุณอาจจะไม่ได้ยินที่คุณสั่งหรือพูดกับเค้า และอย่าพยายามไปปรับเปลี่ยนหรือย้ายข้าวของในบ้านให้มากจนเค้าจำไม่ได้ และแน่นอนว่าอย่าทิ้งเค้าไว้ตามลำพังเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่แปลกๆ

การพา เค้าไปตรวจร่างกายกับสัตว์แพทย์เป็นประจำ
การฉีดวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ประจำปีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุนัขที่มีอายุมากๆ เช่นเดียวกับตอนที่เค้ายังหนุ่มๆอยู่ สุนัขที่มีอายุมากๆนั้นจะมีความสามารถในการต้านทานโรคต่ำลงและไม่สามารถ ต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดีเหมือนเดิมแล้ว ให้พาสุนัขของคุณไปให้สัตว์แพทย์ได้ตรวจร่างกายเป็นประจำ ซึ่งเขาจะให้คำแนะนำคุณได้ว่าในสุนัขบางตัวจะต้องมาตรวจร่างกายเป็นประจำ บ่อยขนาดไหนด้วย และสัตว์แพทย์จะประเมินสุขภาพทั่วไปของอวัยวะต่างๆที่สำคัญอย่างเช่นผิวหนัง หัวใจ ไต และตับ นอกจากนี้ผู้เป็นสัตว์แพทย์ยังจะตรวจบรรดาก้อนโปนที่ผิดปกติ สุขภาพในช่องปากของสุนัขให้ด้วย โรคบางอย่าง อย่างเช่นโรคที่เกี่ยวกับไตก็ควรจะได้รับการตรวจและบำบัดเสียแต่ยังเป็น น้อยๆอยู่ด้วยการตรวจตัวอย่างเลือดที่ได้จากสุนัข (หมายถึงควรจะตรวจเสียก่อนที่จะมีสัญญาณทางแพทย์บ่งบอกถึงโรคนี้ซึ่งปรากฏ ให้เห็นทางร่างกายแล้ว)
ตัวอย่างปัสสาวะของสุนัขก็สามารถ นำมาใช้เป็นข้อมูลสุขภาพสำหรับตัวสุนัขได้ด้วย ดังนั้นคุณก็สามารถจะเก็บตัวอย่างปัสสาวะ แล้วนำไปให้สัตว์แพทย์ตรวจตอนพาเค้าไปฉีดวัคซีนหรือเมื่อถึงเวลาตรวจประจำปี ด้วยได้ ก่อนที่จะเก็บตัวอย่างปัสสาวะของสุนัขให้ตรวจดูภาชนะที่จะใส่ให้แห้ง และสะอาดเสียก่อนก่อนที่จะเก็บตัวอย่างปัสสาวะลงในภาชนะที่ปิดสนิทและสะอาด เมื่อถึงมือสัตว์แพทย์ แต่กระนั้นก็ตามสัตว์แพทย์อาจจะให้ภาชนะสำหรับบรรจุปัสสาวะของสุนัขโดยเฉพาะ แก่คุณเพื่อนำไปเก็บตัวอย่างก็ได้
นี่ยังเป็นโอกาสที่ดี ที่คุณจะสามารถตรวจดูน้ำหนักของสุนัขด้วย ให้ถามจากสัตว์แพทย์หากพบว่าน้ำหนักไม่ตรงเสียทีเดียวนัก สัตว์แพทย์เขาจะให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่คุณเกี่ยวกับตารางการให้อาหารสำหรับ สุนัขด้วย
เมื่อสุนัขนั้นอายุมากขึ้นและเค้าเคลื่อนไหว เชื่องช้าลงเค้าควรจะได้อาหารที่ให้พลังงานน้อยลงด้วย ในบางกรณีอย่างเช่นไตล้มเหลวและโรคหัวใจ จะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลง ส่วนสำคัญของอาหารด้วย สัตว์แพทย์อาจจะอาหารสำเร็จชนิดพิเศษกับคุณ หรือไม่เช่นนั้นก็อาจจะให้คำแนะนำกับคุณถึงวิธีการเตรียมอาหารชนิดพิเศษด้วย ตัวคุณเองที่บ้าน คุณก็ไม่ควรลืมขอคำแนะนำจากสัตว์แพทย์ด้วยหากว่าสุนัขของคุณนั้นไม่สามารถ กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระได้ ซึ่งพบบ่อยว่าเป็นเรื่องสภาวะทางการแพทย์ที่สามารถเยียวยาได้ง่าย
อุบัติเหตุ เรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ในบางโอกาส เพราะสุนัขไม่สามารถที่จะลุกหรือไม่อยากลุกขึ้นจากที่นอนของเค้าหรือไปที่ ประตู บางครั้งก็อาจจะเกิดขึ้นเพราะการควบคุมประสาทในฝั่งของการทำงานของร่างกาย นั้นเสื่อมถอยลง ในกรณีเช่นนี้ วิธีการบำบัดนั้นจะยากขึ้นและไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซนต์

ข้อพิจารณาอื่นๆ
เมื่อ สุนัขไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเนื่องจากการมีอายุมาก เค้าอาจจะไม่วิ่งนำหน้าเราเหมื่อนอย่างที่เค้าเคยเป็นเมื่อตอนที่เค้ายัง หนุ่มแน่น คุณอาจจะต้องเปลี่ยนมาเป็นการพาเค้าเดินเคียงข้างกันไปแทน เกี่ยวกับเรื่องการออกกำลังในสุนัขที่มีอายุมากๆนี้ ให้คุณแวะเข้าไปเยี่ยมชมในหน้า การออกกำลัง
ให้คุณดูแลตัดแต่ง ขนของสุนัขที่มีอายุให้ดี การดูแลเค้าอย่างดีนี้จะช่วยให้เค้ามีความรู้สึกสบายตัวและมีสุขภาพที่ดี ด้วย การแปรงขนจะช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดให้กับผิวหนังและยังจะช่วยให้ขน เค้าเป็นมันเงา ไม่พันกันอีกด้วย สำหรับเรื่องการอาบน้ำและการตัดแต่งขนสุนัข ให้คุณแวะเข้าไปเยี่ยมชมในหน้า การ ตัดการดูแลขนสุนัข
ให้ดูแลขนของสุนัขที่มีอายุมากๆ ให้ดี การดูแลเค้าเรื่องขนนี้จะช่วยให้เค้ารู้สึกสบายตัวและมีสุขภาพดีด้วย การแปรงขนจะช่วยให้ขนของเค้าเป็นมันเงาและไม่พันกัน การแปรงขนและแต่งขนสุนัขของคุณเป็นประจำนั้นก็จะทำให้คุณสามารถตรวจสอบขนของ เค้าจากอาการขนร่วงผิดปกติ พันกัน อาการคันต่างๆ และร่องรอยของพวกเห็บหมัดรวมทั้งปรสิตอื่นๆด้วย
นอกจากนี้คุณจะยัง ทราบได้อีกว่าตรงไหนของเค้าที่โปนหรือนูนผิดปกติไป ไฝหรือเนื้องอก(ที่เกิดจากเนื้อเยื่อไขมัน) ในสุนัขที่มีอายุมากๆถือว่าเป็นปกติ และจะไม่สร้างปัญหาอะไรเว้นเสียแต่บริเวณที่เกิดนั้นจะก่อให้เกิดความเสีย หายต่อโครงสร้างอื่นๆ (อย่างเช่น บริเวณหนังตาเป็นต้น) หรือไม่เช่นนั้นก็อาจสร้างความไม่สบายตัวให้เกิดขึ้นหรือเป็นแผลได้ง่าย
ต้องรีบพาเค้าไป ให้สัตว์แพทย์ทำการตรวจ หากคุณพบว่าเนื้อส่วนไหนของเค้านั้นโปนหรือนูนขึ้นมาอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตรงที่เนื้อส่วนนั้นเกิดโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และให้เช็คดูที่เล็บของเค้าให้เป็นประจำด้วย ให้คุณให้ความสนใจกับนิ้วเล็บส่วนที่เกินขึ้นมาของเค้าเป็นพิเศษ นิ้วเล็บส่วนเกินนี้จะอยู่ด้านข้างของขา แต่จะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำจนสามารถสัมผัสกับพื้นดินได้ นิ้วหรือเล็บนี้โดยปกติจะไม่หลุดออกจากขาของสุนัขไป บางครั้งพบว่าเล็บเหล่านี้โตเพิ่มขึ้นในลักษณะโค้งงอเข้าไปหานิ้วซึ่งหาก เป็นอย่างนี้จะสร้างความเจ็บปวดให้กับสุนัขได้อย่างมากมาย
สำหรับ เรื่องเล็บที่ปกตินั้น คุณสามารถตัดเล็บให้สุนัขของคุณได้ด้วยตัวเอง แต่หากคุณยังไม่คุ้นเคยกับการตัดเล็บให้สุนัข ก็ให้พาไปให้สัตว์แพทย์หรือช่างที่ตัดแต่งขนสุนัขซึ่งเขาจะมีความชำนาญใน เรื่องนี้จัดการให้ ส่วนเรื่องปากและฟันนั้นให้คุณหมั่นเช็คช่องปากและฟันรวมทั้งเหงือกของสุนัข ของคุณเป็นระยะๆ หากคุณพบคราบหินปูนสีน้ำตาลเกาะอยู่ตามฟันของเค้า หินปูนเหล่านั้นจะเป็นสาเหตุของกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ และเป็นสาเหตุของโรคเหงือกรวมทั้งการติดเชื้อต่างๆ และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันสุนัขหลุดออกจากปากในที่สุด
สัตว์ แพทย์ของคุณจะสามารถช่วยขูดหินปูนที่เกาะอยู่นี้รวมทั้งถอนฟันที่โยกแล้วให้ หลุดออกไปได้ ในการนี้สัตว์แพทย์อาจจะต้องทำการวางยาสลบซึ่งเป็นขั้นตอนปกติให้กับสุนัข แต่จะดีกว่ามากหากได้มีการป้องกันหรือลดการเกิดโรคทางเหงือกของเค้าให้น้อย ลงมากๆด้วยการให้อาหารแข็งๆให้เค้าทานบ้าง และให้จัดเป็นส่วนหนึ่งสำหรับอาหารที่เค้าจะต้องกินไปตลอดชีวิต นอกจากนี้การหมั่นแปรงฟันให้กับสุนัขเป็นประจำโดยใช้แปรงสีฟันที่ผลิตขึ้นมา ให้ใช้กับสุนัขโดยเฉพาะรวมทั้งยาสีฟันก็เป็นส่วนที่สามารถช่วยได้มาก หากไม่มีแปรงสีฟันก็ให้ใช้ผ้านุ่มๆหรือสำลีหมาดๆแตะกับผงฟูแทนก็ได้

เมื่อวาระสุดท้ายใกล้จะมาถึง
การ ตัดสินใจที่จะพาสุนัขตัวอื่นเข้ามาในบ้านก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่าง รอบคอบด้วยเช่นกัน มีเจ้าของหลายๆคนพบว่าลูกสุนัขตัวใหม่เข้ามาในบ้านนั้น บางทีจะเป็นการต่ออายุให้กับสุนัขที่มีอายุมากๆ ถึงแม้ว่าคุณจะมีความรู้สึกว่าเค้าของคุณจะมีใครใหม่มาแทนที่ไม่ได้ก็ตาม แต่การมีสุนัขที่เด็กกว่าวิ่งเล่นอยู่รอบๆจะทำให้สุนัขที่มีอายุมากๆนั้นได้ เพื่อนจะเป็นการง่ายมากยิ่งขึ้นสำหรับวันนั้นที่จะมาถึง ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของสุนัข ช่างเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดว่าคุณอยากจะให้เค้าหลับไปเลยดีหรือเปล่า แต่ก็หวังไว้ว่า เมื่อเวลานั้นมาถึงเค้าจะจากไปอย่างสงบขณะที่เค้าหลับในที่นอนอันแสนสุขของ เค้า เพราะในความจริงยังมีสุนัขอีกหลายๆตัวที่ไม่มีโอกาสเช่นนั้น
สำหรับ สุนัขที่มีคุณภาพชีวิตไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เพราะต้องทนทุกข์จากอาการเจ็บป่วยหรือ เจ็บปวดมาตลอดเวลา ซึ่งเป็นการยุติธรรมแล้วสำหรับเค้าที่เราจะตัดสินใจให้ความเจ็บป่วยหรือเจ็บ ปวดนั้นสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุด เรื่องอย่างนี้คุณต้องหารือกับสัตว์แพทย์ด้วยความรอบคอบมากๆ และทั้งสองฝ่ายจะต้องเห็นพ้องด้วยกันว่าการให้เค้าตายนั้นเป็นการดีที่สุด สำหรับเค้าแล้ว แล้วให้สัตว์แพทย์ล่วงรู้ด้วยว่าคุณรู้สึกอย่างไรเพื่อที่ว่าจะได้ไม่เข้าใจ กันผิดความหมาย
ในสุนัขนั้น การให้เค้าตายมีความหมายถึงการฉีดยาไม่ให้เค้าเจ็บปวดอีกต่อไป ซึ่งจะบังเกิดผลภายในไม่กี่วินาทีเพื่อส่งให้เค้าหลับไป การที่คุณสูญเสียเพื่อนคู่หูไปนั้นมันยากที่จะทานทนได้ และมันก็ยากที่จะยอมรับว่าสุนัขของคุณไม่สามารถอยู่กับคุณไปได้ตลอด แต่คุณสามารถทำให้ดีที่สุดได้ ด้วยการอดทนและดูแลเค้าให้ดี เพื่อทำให้ปีท้ายๆของเค้านั้นมีความสุขสบาย และสนุกสนานมากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้

คุณจะรักษาตำแหน่งหัวหน้าฝูงที่ดีไว้ได้อย่างไรนะ?

คุณจะรักษาตำแหน่ง หัวหน้าฝูงที่ดีไว้ได้อย่างไรนะ?


พอ เค้าอายุได้ 6 เดือน ลูกสุนัขส่วนใหญ่จะย่างเข้าสู่ช่วงเวลาวัยหนุ่มสาว (แต่บางตัวจะยัง ไม่เข้าสู่ช่วงชีวิตแบบนี้จนกว่าเค้าจะอายุได้ 2 ปีไปแล้ว) ดูเหมือนว่าเขาจะลืมๆ ทุกอย่างที่คุณเคยสอนเขามา คุณเรียกเค้า เค้าอาจจะไม่เข้ามาหา และลูกสุนัขจะไม่ได้คิดถึงสิ่งที่คุณเคยสอนให้เค้าปฏิบัติตามอย่างคำสั่ง “นั่ง” หรือ “หมอบ”
ในช่วงเวลาแบบนี้ เจ้าหนุ่มน้อยของเราเค้าต้องการค้นหาความเป็นตัวของตัวเอง เค้าอยากรู้ว่าเค้าคือใคร และเขาอยากจะทดสอบว่าตัวเขาสามารถรับบทบาทเจ้านายแทนคุณได้หรือไม่ ดังนั้นคุณมีหน้าที่ที่จะต้องสอน และฝึกฝน วินัยให้เขาและทำให้เค้ารู้ให้ได้ว่าสถานะของเค้านั้นอยู่ตรงไหน และแม้ว่าเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่แล้ว คุณก็ควรจะฝึกวินัย ให้กับเขาเป็นระยะๆ และอย่าลืมว่าการชมเชยเป็นสิ่งสำคัญมากๆ
สิ่ง ที่สุนัขต้องการ ก็คือการที่ได้เป็นใหญ่ในครอบครัว เหมือนกับที่เค้าอยู่ในฝูงเค้านั่นแหละ ให้คุณกำจัดความ อหังการของเค้าลงไปด้วยวิธีการอันเหมาะสมในทันทีที่เค้าแสดงอาการขึ้นมา คุณอาจเห็นว่าการที่ลูกสุนัขแสดงท่าทาง หวงกระดูกกับคุณเป็นเรื่องน่าตลกดี แต่อย่าปล่อยให้เขาทำพฤติกรรมนี้กับคุณ หากปล่อยเนิ่นนานไปมันอาจจะสายเกินแก้ มันอาจจะกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญ ที่คุณจะต้องแก้ไขพฤติกรรมของเขาหรืออาจกลายเป็นอันตรายหากสุนัขของคุณ ตัวโตไม่ใช่เล่น
ในฐานะที่คุณเป็นเจ้านายหรือจ่าฝูง คุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้เพื่อเป็นการเน้นย้ำถึงสถานะของคุณ เวลาที่เค้ากำลังกิน อาหารให้ดึงชามข้าวเค้าออกมาบ้าง เขาควรยินยอมคุณแต่โดยดี หากเค้าแยกเขี้ยวคำราม หรืออยากจะกัดเรา คุณต้องกำราบเขา วิธีการกำราบหรือสอนให้เค้ารู้ว่าใผเป็นใผ(ใครเป็นใคร) ก็คือการจับเค้านอนตะแคงราบไปกับพื้นแล้วใช้มือกดคอเค้าไว้ ให้คุณกดไว้อย่างนี้จนกระทั่งเค้ายอมจำนน และคลายอารมณ์ลง (การทำอย่างนี้จะใช้เวลาอยู่หลายนาทีเมื่อคุณทำกับเค้า เป็นครั้งแรก) คุณจึงปล่อยมือออกมา แล้วอย่าลืมว่าให้พูดกับเค้าอย่างนุ่มนวลล่ะระหว่างเวลาที่คุณกดมือลงไป วิธีการกำราบนี้ใช้ได้เฉพาะเวลาที่ลูกสุนัขของคุณประพฤติตนในทางที่ไม่ควร เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ที่เค้าแยกเขี้ยวยิงฟัน ใส่คุณเวลาที่คุณแต่งตัวให้เค้า ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะเจ็บ เพราะวิธีการกำราบแบบนี้จะไม่ทำให้เค้าเจ็บ และนี่เป็นวิธเดียวกับีที่สุนัขที่อยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า แสดงออกและทำกับลูกฝูงตัวที่เด็กกว่าให้เจียมเนื้อเจียมตัว แต่อย่าลืมปล่อยมือออกจากคอเค้าก็แล้วกัน หากคุณเห็นว่าเค้ายอมคุณแล้ว แม้ว่าเค้าดิ้นตัวหนีคุณอย่างสุดกำลังก็ตาม
การบีบปากเค้า ด้วยมือของคุณอย่างระมัดระวังแล้วปล่อยมือ ก็เป็นอีกวิธีในการแสดงความเหนือกว่าของคุณต่อสุนัข และเป็นการเสริมความน่าเกรงขามให้กับตำแหน่งหัวหน้าฝูงให้คุณได้ดี ทุกคนในครอบครัวควรเข้าใจตรงกันว่า สุนัขอยู่ในสถานะที่เป็นน้องเล็กที่สุดของบ้าน ไม่ใช่เจ้านายและควรปฏิบัติกับเขาอย่างนั้น
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สุนัขของ คุณแสดงความเหิมเกริมและอยากเป็นใหญ่ ไม่ควรให้อนุญาตให้เค้าขึ้นมานั่งบน โซฟาหรือนอนบนเตียงโดยที่คุณไม่ได้อนุญาตอย่างเด็ดขาด
ส่วน การที่เค้าเห็นขาใครต่อใครในครอบครัวคุณ เป็น “สุนัขตัวเมีย” ก็เกิดขึ้นได้บ่อย แต่ไม่ได้แสดงว่าสุนัขของคุณ เค้ามีพฤติกรรมทางเพศที่ผิดๆหรอก แต่สำหรัยเชามันคือการแสดงความ “มีอำนาจเหนือกว่า”ต่างหาก แม้แต่สุนัขตัวเมีย ก็ตามหากทำอย่างนี้จะถือว่าเป็นการกระทำที่แสดงออกต่อสุนัขตัวที่มีตำแหน่ง ต่ำกว่า ดังนั้นคุณอย่าไปปล่อยให้พฤติกรรม แบบนี้เกิดขึ้นกับเค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากลสุนัขแสดงพฤติกรรมแบบนี้กับลูกๆของคุณ ให้พูดกับเค้าเสียงแข็งๆว่า “ไม่!” แต่หากยังเกิดพฤติกรรมแบบนี้ขึ้นอีก ก็ให้แสดงความเป็นเจ้านายหรือหัวหน้าฝูงของเค้าด้วยการจับเค้านอนตะแคง แล้วกดคอเค้าไว้ด้วยมืออย่างที่กล่าวมาข้างต้น
คุณควรจะเริ่มวิธี การนี้เสียตั้งแต่แรกๆ สามารถเริ่มได้ทันทีที่เค้าเข้ามาอยู่ในบ้านคุณใหม่ๆ และเริ่มคุ้นเคยแล้ว เพื่อที่ลูกสุนัขเล็กๆที่น่ารักของคุณได้เติบโตขึ้นมา เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์และนิสัยดีในอนาคต
และแน่นอนว่าการแก้ไขความประพฤติที่ไม่ ถูกต้องที่เค้าทำจนเคยชินแล้ว จะยากกว่าการสอนเค้าตั้งแต่ต้น เป็นไหนๆ สุนัขตัวที่ไม่ได้รับการสอนจากคุณมาตั้งแต่ต้นนั้นจะเป็นปัญหาแน่เมื่อเค้า อายุได้สักปีหรือสองปี ท้ายที่สุด พวกเค้าจะต้องลงเอยในสถานสงเคราะห์สัตว์หรือที่แย่กว่านั้น อาจต้องโดนกำจัดทิ้ง ถ้าเขากลายมาเป็นสุนัขที่จ้องจะ เข้าคุกคามและเป็นอันตรายต่อคน อย่างไรก็ดี สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหากคุณได้เริ่มฝึกฝนเค้าอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เค้า ยังเล็กๆ
วิธีแบบโบราณที่จะให้สุนัขเชื่อฟังก็คือการ เฆี่ยนตี แต่โชคดีที่การทารุณสัตว์แบบนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว คุณทราบไหมว่า สุนัขที่ถูกตีนั้นจะอยู่อย่างเป็นทุกข์และจะสามารถกัดหรือทำร้ายคนได้เมื่อ เค้ารู้สึกกลัว พวกเค้าจะไม่มีความมั่นใจในมนุษย์ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรกระทำต่อสุนัขของคุณนั้นก็คือการให้ความสนใจเค้า ชมเชยเค้า และรักเค้าอยู่เสมอ
อย่าลืมว่าไม่เพียงสุนัข เท่านั้นที่ต้องเรียนรู้ ตัวคุณเองก็ต้องเรียนรู้เช่นกันว่าคุณควรต้องทำอะไร เพื่อให้สุนัขเข้าใจว่า เขาต้องปฏิบัติตัวอย่างไรจึงเป็นการเหมาะสม

สุนัขกับเพื่อนสัตว์ทั้งหลาย

สุนัขกับเพื่อนสัตว์ทั้งหลาย


สุนัขของเรามักจะคิดเสมอว่าตัวเองนั้น เป็นเอกในบ้าน แต่เค้าอาจไม่ใช่สัตว์เลี้ยงภายในบ้านตัวเดียวของคุณเท่านั้น ต่อไปนี้จะเป็นข้อมูลที่จะพอช่วยให้เจ้าสุนัขของคุณเข้ากันกับเพื่อนตัว อื่นๆได้

สุนัข กับสุนัข
สุนัข อีกตัวหนึ่งนับเป็นเพื่อนที่เหมาะสมสำหรับสุนัขมากที่สุด สุนัขสองตัวจะอยู่เป็นเพื่อนกันได้และคุณสามารถ ปล่อยให้พวกเค้าอยู่กันเองตามลำพังได้ชั่วขณะหนึ่ง อย่างไรก็ดีการที่มีสุนัขถึงสองตัวก็จะต้องมีที่มีทางให้แต่ละตัว เป็นของตัวเองด้วย เพราะบางครั้งพวกเค้าอาจจะอยู่ตามลำพังบ้าง และแน่นอนแต่ละตัวก็จะต้องมีชามข้าวและน้ำ เป็นของตัวเองด้วย การเลี้ยงสุนัขสองตัวจะไม่สร้างปัญหาเพิ่มจากการที่คุณเลี้ยงเค้าเพียงตัว เดียวเท่าไหร่นัก การจะพาสุนัข หนึ่งตัวหรือสองตัวไปเดินเล่นไม่ได้ยุ่งยากแตกต่างกัน
จะเหมาะที่สุดถ้า สุนัขสองตัวเป็นตัวผู้และตัวเมีย แต่ถ้าหากคุณไม่ต้องการให้เค้ามีลูกกัน ต้องไปทำหมัน ตัวใดตัวหนึ่งเสีย ถ้าสุนัขเป็นตัวผู้ทั้งคู่เขาจะได้โตมาด้วยกันและเป็นเพื่อนรักกันและจะยิ่ง ดีหากคุณได้ลูกสุนัขทั้งสองตัว มาจากครอกเดียวกัน แต่หากสุนัขตัวหนึ่งอยู่ตัวเดียวมาก่อนเป็นเวลานาน เค้าจะไม่กระตือรือร้นอยากมีเพื่อนใหม่เท่าใดนัก สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างความคุ้นเคยก็คือสถานที่ทั่วๆไป (ไม่ใช่อาณาเขตของใคร) เช่น ในสวนสาธารณะ แล้วจากนั้นเมื่อสุนัขตัวที่สองเข้ามาในบ้าน สุนัขที่อยู่กับคุณมาก่อนจะต้องได้รับการเอาใจใส่และการดูแลจากคุณเหมือน เช่นเคย แต่เพื่อป้องกันพวกเค้าสองตัวทะเลาะกัน สุนัขทั้งสองจะต้องเข้าใจให้ได้ว่าคนที่เป็นเจ้าของ ก็คือ เจ้านายของเค้านั่นเอง

สุนัข กับแมว
บรรดา สุนัขและแมวจะต้องทำความรู้จักกันก่อนเป็นสิ่งแรก ทั้งนี้เพราะภาษากายของพวกเค้านั้นมีความแตกต่างกัน อย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่นหากแมวตวัดหาง แปลว่าแมวกำลังโกรธ แต่ถ้าสุนัขกระดิกหางนั่นแสดงว่าเค้ากำลังมีความสุข นี่คือความแตกต่างที่พวกเค้าจะต้องเรียนรู้ ทำนองเดียวกันจะทำอย่างไรถึงจะให้เจ้าแมวน้อยรู้ว่าตอนไหนที่สุนัขโกรธ และควรจะปล่อยให้สุนัขอยู่ลำพัง หากสุนัขกำลังคำรามเสียงต่ำๆอยู่ในลำคอ แมวจะเข้าใจผิดตีความว่าสุนัขกำลังอารมณ์ดี เพราะแมวจะส่งเสียงครางในลำคอเวลาที่สบายตัวและพอใจหรือมีความสุข
และ ถ้าสุนัขยกเท้าหน้าขึ้นก็จะหมายถึง “มาเล่นด้วยกันเถอะ” แต่กิริยาอย่างเดียวกันถ้าเกิดกับแมว กลับจะหมายความว่าปฏิเสธ หากคุณให้ทั้งสุนัขและแมวได้เติบโตขึ้นมาด้วยกันได้ พวกเค้าจะเรียนรู้ภาษาของกันและกัน ได้อย่างดีรวมทั้งจะกลายมาเป็นเพื่อนคู่หูกันด้วย แต่ถ้าคุณพาแมวตัวใหม่เข้าบ้านที่มีสุนัขรออยู่แล้ว ทุกอย่างจะเริ่มต้นไปด้วยดี คุณจะต้องให้ทั้งสองตัวอยู่แยกกันสักสองถึงสามวัน แต่ควรจะให้แต่ละตัวได้ยินซึ่งกันและกันผ่านประตูที่กั้นอยู่ จากนั้นให้ทั้ง สองได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ให้คุณอุ้มแมวไว้ในอ้อมแขนของคุณแล้วให้เธอมองดูสุนัข และแสดงให้เห็นว่าสุนัขนั้น เป็นเพื่อนที่ดีได้ ส่วนสุนัขซึ่งคุ้นเคยกับการอยู่รวมกันเป็นฝูง จะยอมรับสมาชิกใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ถ้าในกรณีกลับกัน คือคุณมีแมวอยู่ที่บ้านอยู่ก่อนแล้วและสุนัขเป็นผู้มาทีหลัง คุณจะต้องใช้เวลาสักพักเพื่อทำให้แมวเห็นสุนัขเป็นเพื่อนให้ได้

สุนัข กับเพื่อนสัตว์อื่นๆ
การ ทำให้สัตว์คุ้นเคยกับเพื่อนอื่นๆนั้น จะเป็นเรื่องง่ายหากพวกเค้าได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนตัวอื่นๆในช่วงเวลา แห่งการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคม สุนัขจะเข้าทำความรู้จักกับสัตว์ตัวอื่นผ่านทางการดมกลิ่นเป็นหลัก ดังนั้นสัตว์ต่างๆ ก็จะทำความรู้จักกับตัวอื่นๆผ่านทางการดมกลิ่นก่อนที่จะเห็นตัวจริงเช่นกัน คุณจึงสามารถช่วยให้พวกเค้ารู้จักกันได้ง่ายขึ้น ด้วยการให้สุนัขลองดมเศษผ้าห่มหรือเศษขี้เลื่อยที่มีกลิ่นสัตว์ตัวอื่นติด อยู่(แล้วแต่ชนิดของสัตว์)แบบอยู่ห่างๆ คุณสามารถวาง เศษผ้าเหล่านี้ไว้ข้างๆที่นอนของสุนัข ขั้นต่อไปก็ให้สุนัขลองมองสัตว์อีกตัวอยู่แบบห่างๆ ขณะที่สัตว์ตัวนั้นกำลังหลับอยู่ แล้วขณะเดียวกันก็ให้พูดอะไรก็ได้กับสุนัขด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่โปรดจำไว้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการผูกมิตรเท่านั้น และอย่าลืมว่าห้ามทิ้งสุนัขไว้ตามลำพังกับสัตว์ตัวอื่นอย่างเด็ดขาด

กฏทอง 10 ประการของการดูแลสุนัข

กฏทอง 10 ประการของการดูแลสุนัข




1. เมื่อ ลูกสุนัขมาถึงบ้าน สุนัขตัวใหม่ของคุณจะรู้สึกสับสนและตื่นเต้นกับภาพรอบตัวที่แปลกตา แต่หากคุณเตรียมการล่วงหน้าคุณจะสามารถทำให้สุนัขของคุณรู้สึกคุ้นเคยได้ใน เวลาเพียงนิดเดียว
2. ปก ป้องสุนัขของคุณด้วยการฉีดวัคซีน การฉีดวัคซีนนั้นจะช่วยปกป้องสุนัขของคุณจากโอกาสที่จะติดโรคร้ายต่างๆได้ เราจะมาดูกันถึงเหตุผลบางประการที่ว่าทำไมถึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะคอยดูแล ให้สุนัขได้รับการฉีดวัคซีนเป็นประจำ
3. การ ให้อาหารสุนัข เป็นเรื่องง่ายๆที่จะคอยดูแลสุนัขของคุณให้มีสุขภาพดีและมีความสุข ด้วยการให้เค้าได้รับสารอาหารที่มีความสมดุลย์ หัวข้อนี้จะเป็นคำแนะนำที่มีประโยชน์สำหรับการให้อาหารสุนัขอย่างถูกต้อง
4. การ ฝึกสุนัขของคุณ การสอนให้สุนัขของคุณมีมารยาทที่ดีทั้งที่อยู่ในบ้านและขณะที่อยู่ข้างนอก ก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ว่ามันไม่งานน่าเบื่อที่ต้องใช้ความอดทนและไม่ต้องเพิ่มอะไร
5. การ ดูแลสุนัขของคุณ เป็นเรื่องสำคัญสำหรับสุนัขของคุณที่จะต้องให้เค้าได้รับการตรวจร่าง กายอย่างสม่ำเสมอจากสัตว์แพทย์ แต่เรื่องการดูแลสุขภาพนั้นคุณควรจะเริ่มต้นจากที่บ้าน หัวข้อนี้จะเป็นคำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคบางประการที่จะดูแลเค้าให้อยู่ใน สภาพร่างกายที่สมบูรณ์ที่สุด
6. ควร จะคุมกำเนิดสุนัขของคุณหรือเปล่า? หากคุณไม่ได้คิดที่จะขยายพันธุ์สุนัขของตัวเอง คุณก็ควรที่จะพิจารณาคุมกำเนิดเค้าเสีย จากการศึกษา พบว่าการคุมกำเนิดสามารถช่วยให้สุนัขมีชีวิตที่ยืนยาวเพิ่มขึ้น ด้วยชีวิตที่มีสุขภาพดี และเกิดประโยชน์ตามมาอีกมากมาย บทความนี้จะให้เหตุผลคุณได้ว่า ทำไม
7. การ แต่งขนสุนัข เป็นเรื่องสำคัญสำหรับสุนัขของคุณ หากคุณจะตัดแต่งขนและดูแลเนื้อตัวเค้าให้ถูกต้องตามหลักการ เราจะมาดูกันถึงวิธีที่จะช่วยทำให้สุนัขของคุณมีแต่ความสะอาด
8. การ เลี้ยงให้สุนัขของคุณ มีความกระฉับกระเฉงและสุขภาพดี สุนัขนั้นจำเป็นต้องออกกำลังกายให้มากและชอบที่จะให้รูปแบบการออกกำลังออกมา อยู่ในรูปของการเล่นเกมส์ หัวข้อนี้เป็นบางวิธีการที่จะช่วยดูแลให้เค้ามีสุขภาพดีด้วยการออกกำลังและ เล่นสนุก
9. การ เข้าใจสุนัขของคุณ เพื่อที่จะสานความสัมพันธ์กับสุนัขของคุณให้แน่นแฟ้นขึ้น จึงมีความสำคัญที่คุณจะต้องหัดเรียนรู้และเข้าใจความจำเป็นและความต้องการ ของสุนัขตัวเอง เราจะมาดูกันถึงวิธีสื่อสารที่เป็นกุญแจเชื่อมความรักให้กันและกัน
10. ความ รับผิดชอบสุนัขในฐานะที่เป็นเจ้าของ การเป็นเจ้าของสุนัขนั้นเป็นประสบการณ์ที่แสนวิเศษแต่บทบาทนี้จะนำมาซึ่ง ความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวงด้วยเช่นกัน เราจะมาดูกันว่าสิ่งที่คุณจะสามารถทำอย่างถูกต้องในฐานะที่เป็นเจ้าของสุนัข นั้นเป็นอย่างไร

ภาษากายของสุนัข

ภาษากายของสุนัข


เหตุผลหนึ่งที่ทำให้สุนัขนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี ของคนก็คือ วิธีหรือท่าทางของเค้าที่ใช้ในการสื่อสารกับคน สุนัขนั้นมองเห็นคนอย่างเรา เป็นเพื่อนพวกเดียวกับเค้า แต่คนละพันธุ์กันเท่านั้นเอง สุนัขสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ และความต้องการของมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น การทำความ เข้าใจว่า สุนัขนั้นสามารถสื่อสารกับพวกเค้าด้วยกันเองอย่างไร จะช่วยให้เราเป็นเจ้านายที่ดีของสุนัข และช่วยให้เราสามารถแปลความหมายที่สุนัข พยายามที่จะบอกกับเราได้อย่างถูกต้อง
สุนัขสามารถสื่อสารกับสุนัขอื่นๆผ่านการ แสดงอากัปกิริยาหลายหลาก นั่นรวมไปถึง การแสดงสีหน้าหลายๆแบบ การทำท่าหลายๆ อย่าง เช่นการส่งเสียง หรือวิธีการดมกลิ่น สุนัขของคุณจะใช้ปากนุ่มๆของเค้า ดวงตาอันกลมโต รวมถึง หูยาวๆ และพวงหางในการแสดงอารมณ์ การที่คุณสามารถเข้าใจภาษากายของสุนัขจะทำให้คุณทราบได้ว่าตัวไหนเหนือกว่า ตัวไหน ในเวลาที่มีการเผชิญหน้ากันหรือในสถานการณ์อื่นๆ
สุนัขที่รู้สึกไม่ กลัว ทำตัวเป็นนักเลง หรือแสดงอาการก้าวร้าว จะพยายามแสดงให้เรา (หรือคู่ต่อสู้ ของเค้าในบางกรณี) เห็นว่าตัวเค้านั้นใหญ่กว่า หรือมีพละกำลังมากกว่า โดยเค้าจะยืนตัวตั้ง ขาเหยียดตรง หางและหูตั้งขึ้น ทำอกตั้ง ขนรอบคอชูชัน และเป็นแนวยาวตลอดสันหลัง นอกจากนี้ คุณอาจจะพบได้อีกว่าสุนัขที่กำลังแสดงความรู้สึกแบบนี้จะโบกหางไปมาอย่าง ช้าๆ พร้อมขู่คำราม ในทางกลับกันสุนัขตัวที่กำลังยอมแพ้ (หรือยอมจำนนต่อตัวที่เก่งกว่า) จะแสดงท่าว่า ข้านี้ตัวกระจ้อยร่อย หมดน้ำยาเหมือนลูกสุนัขตัวเล็กๆ และอาจจะนอนหงายท้อง หูรี่ ไม่สู้แต่อย่างไร พอถึงตรงนี้ต้องขออธิบายกันก่อนว่า สุนัขตัวโตมักจะสั่งสอนหรือดุลูกสุนัขตัวเล็กๆ แต่เขาจะไม่ทำร้ายเจ้าตัวน้อยอย่างแน่นอน
สุนัขตัวที่ยอม รับว่าอีกตัวนั้นเก่งกว่าหรือเหนือกว่า หรือยอมรับและเกรงกลัวคนผู้เป็นเจ้าของ จะแสดงอาการยำเกรง ด้วยการเข้าไปหาสุนัขตัวที่เหนือกว่าหรือเจ้าของ ทางด้านข้าง โดยหมอบคลานเตี้ยติดพื้น หางตกแต่แกว่งไปมา นอกจากนี้ คุณยังจะพบอีกว่าเค้าจะชอบเลียมือเลียไม้ เลียเท้าหรืออาจเลยไปถึงหน้า ของผู้เป็นเจ้าของ หรือสุนัขตัวที่เหนือกว่า ถ้ามันทำได้ แต่ถ้าเขายังเห็นว่าที่แสดงออกมานี้ยังแสดงอาการเอาใจได้ไม่มากพอ พวกเค้าอาจจะเพิ่มอาการให้มากขึ้นไปอีก โดยลงไป กลิ้งหงายท้อง ซึ่งบางตัวที่ทำอย่างนี้ อาจจะมีฉี่ออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
ลักษณะ พฤติกรรมอย่างหนึ่งของสุนัขที่เหมือนกันแทบทุกตัวเลยและทุกคนคุ้นเคยกันเป็น อย่างดี ก็คือ การแกว่งหาง แทบทุกคนคงจะจำได้ว่าการโบกหางไปมาของสุนัขเป็นการแสดงอาการยินดีและความ เป็นมิตร ของสุนัข ส่วนการแกว่งหาง อย่างแรงจนก้นสะบัดไปมาเพื่อแสดงอารมณ์แบบเดียวกัน ก็จะมีให้เห็นในสุนัขที่เป็นลูกฝูง และสุนัขตัวที่หางสั้นๆ
นอก จากนี้ หางยังเป็นตัวที่ใช้บอกอารมณ์อื่นๆได้อีกด้วย อย่างเช่น หางที่โบกอย่างช้าๆเกร็งๆ อยู่ในระดับเดียวกับ หลังของสุนัข จะแสดงว่าเค้ากำลังโกรธ ส่วนหางที่ห้อยตกอยู่ระหว่างก้นของสุนัข เป็นสัญญาณที่บอกว่าเค้ากำลังกลัว สำหรับสุนัขตัวที่กำลังมีความกังวลใจ กลุ้มใจ หรือกำลังกลัว หางจะตกและแกว่งอย่างเกร็งๆ เป็นสัญญาณที่แสดงถึงความรู้สึก ที่กำลังพยายามสงบอกสงบใจ สำหรับสุนัขบางพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่น สุนัขพันธุ์ วิพเพท และ อิตาเลี่ยน เกรย์ฮาวด์ หางจะห้อยอยู่ ระหว่างขาหลังเป็นธรรมชาติของเขา แต่ถ้าหางของเขายกสูงเหนือแนวกระดูกสันหลังประมาณ 45 องศา แสดงว่าเขากำลังสนใจ อะไรบางอย่างอยู่
การแสดงสีหน้าของ สุนัขก็สามารถบ่งบอกอารมณ์อันหลายหลากของเค้า ให้คุณได้ทราบเช่นเดียวกัน ไม่ว่าสุนัขนั้น จะมีความรู้สึกกังวลใจ หรือตื่นเต้น ตกใจกลัวหรืออยู่ในอารมณ์อยากสนุก หรือแม้แต่ อารมณ์อื่นๆก็ดี หากคุณเห็นสุนัขที่กำลัง ทำหูตั้ง นั่นแสดงว่าเค้ากำลังอยู่ในอาการที่เตรียมพร้อม ที่จะทำอะไร บางอย่าง หรือฟังเสียงอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่หากหูของเค้า ลู่หรือตกไปข้างหลังเสมอกับแนวศรีษะ ก็จะบ่งบอกถึงว่า สุนัขกำลังดีใจ ยอมแพ้ หรือกลัว หากต้องการอ่านอารมณ์ของสุนัข ให้ออก คุณก็จะต้องสังเกตการแสดงออกทางร่างกายของสุนัขประกอบไปพร้อมกันด้วย
การ หรี่ตาของสุนัขแปลความหมายได้สองอย่าง คือถ้าไม่ได้กำลังมีความสุข ก็แสดงว่ากำลังยอมแพ้ แต่หากเมื่อไหร่ ก็ตามที่คุณพบว่า สุนัขที่บ้านทำตาเบิกกว้างและลุกโพลง นั่นย่อมแสดงว่าสุนัขกำลังจะแสดงอาการก้าวร้าวหรือกำลังเริ่มโมโห เหมือนอย่างเช่นในฝูงสัตว์ป่า หัวหน้าฝูงแสดงอาการเช่นนี้เพื่อควบคุมและดูแลบรรดาลูกฝูงที่ไม่เชื่อฟัง โดยการจ้อง ทั้งสอง ฝ่ายจะจ้องตากันจนกว่าจะมีฝ่ายใดเข้าท้าทายหรือมีฝ่ายใดก้มหัว ฝ่ายที่ยอมแพ้ก็จะลดหัวของตนให้ก้มต่ำลงแล้วหันกลับออกไป อย่างไรก็ดี หากการประจันหน้าของสุนัขที่เหนือกว่าและตัวที่ด้อยกว่ายังคงดำเนินอยู่ต่อ ไป แม้ว่าสุนัขตัวที่ด้อยกว่าจะหลีกทาง ไปแล้ว สุนัขที่ด้อยกว่านั้นอาจจะรู้สึกสับสนและแว้งกัดออกไปเพื่อเอาชนะความกลัวก็ ได้ และหากการทำสงครามทางสายตานี้ ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด สุนัขตัวที่เหนือกว่าก็จะเข้าคุกคามและสั่งสอนอีกตัวด้วยการแยกเขี้ยวคำราม ขู่ หรือตรงเข้าตะลุมบอน
คุณไม่ควรทดลองข่มสุนัขที่บ้าน ด้วยสายตาในขณะที่สุนัขกำลังหงุดหงิดหรือโมโห เพราะนี่อาจเป็นการยั่วยุให้สุนัข เริ่มตรงเข้าทำร้ายคุณ แต่กระนั้นก็ดี การจ้องมองตาในแบบที่สร้างความอบอุ่นใจให้กับสุนัขจะเป็นการช่วยเสริม สัมพันธภาพ ระหว่างคุณกับสุนัขตัวโปรดให้แนบแน่นขึ้นได้
สุนัข ที่ว่าง่ายและสุนัขบางสายพันธุ์ที่เห็นชัดๆ อย่างเช่น ลาบราดอร์ ซึ่งเป็นสุนัขที่ทำหน้าเหมือนยิ้ม เวลาอ้าปาก เราจะเห็นฟันใต้กระพุ้งปากยานๆเผยอๆของเค้า อันนี้ดูเป็นมิตรดี แต่ในยามที่เค้าโมโห ปากของสุนัขลาบราดอร์ จะหุบเข้า เผยให้เห็นฟันขาวแวววาวทุกซี่ ซึ่งคุณจะได้ยินเสียงเค้าขู่ตามมา สำหรับสุนัขที่แสดงอาการอยากจะเล่น อาจจะแสดงพฤติกรรม ด้วยการเหยียดอุ้งเท้าตุ้มน้อยๆออกมาหา หรือชวนคุณเล่นผ้า และเค้าก็จะชอบเห่าเพื่อดึงดูดความสนใจ ส่วนกิริยาท่าทางอื่นๆ ของสุนัขที่สามารถสังเกตได้ก็อย่างเช่นชวนคุณเล่นของเล่น หรือไล่งับเพื่อนๆของเค้าเพื่อชวนให้เล่นวิ่งไล่กัน

ปรับเปลี่ยนอาหารสำหรับสุนัขให้ถูกต้องตามวัย

ปรับเปลี่ยนอาหารสำหรับสุนัขให้ถูกต้อง ตามวัย


คุณเคยสั่งสเต็คขนาด 16 ออนซ์(ชิ้นใหญ่พิเศษ) ให้กับคนอายุสักแปดสิบปีที่ไม่มีฟันสักซี่อยู่ในปากกินไหม? หรือเคยให้ ลูกชายวัยรุ่นกินข้าวต้มบดเละๆสำหรับเด็กบ้างหรือไม่? แม้ว่าจะไม่เคยแต่มันก็เป็นไปได้ที่คุณอาจจะทำ เรื่องคล้ายๆกันนี้ เวลาคุณเตรียมอาหารให้สุนัขของคุณ

ด็อก เตอร์ จิม โซโคโลวสกี้ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนอาหารสุนัขไว้ดังนี้

“สุนัขนั้นเหมือนคน ซึ่งมีความต้องการอาหารที่แตกต่างกันตามช่วงอายุ แต่แย่หน่อยที่แต่ละช่วงชีวิตของสุนัขนั้น เราเห็นและแยกแยะได้ไม่ชัดเจนนัก” เขากล่าวต่อ “แต่เพราะว่าสุนัขนั้นจะบอกเราก็ไม่ได้ว่าเค้าอยากกินอะไรและเมื่อไหร่ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องรับผิดชอบในตัวเค้าในฐานะที่เป็น เจ้าของสุนัข ที่จะต้องรู้จักเรียนรู้และทำความรู้จัก กับช่วงชีวิตของเค้า หรือบรรดาเหตุการณ์ที่จะต้องสนองตอบเค้าด้วยอาหารที่ให้เค้าด้วยความถูกต้อง และครบถ้วนสารอาหาร”
ช่วงชีวิตของสุนัขที่ถือว่ามีความ สำคัญและคุณจะต้องดูแลเอาใจใส่เขาอย่างใกล้ชิดให้เค้าได้รับสารอาหารอย่าง ถูกต้อง และเพียงพอ ได้แก่ ช่วงอายุมาก ช่วงตั้งครรภ์ ระยะพักฟื้น (หลังจากที่พ้นจากอาการบาดเจ็บ หรือการผ่าตัด หรือการป่วย) การป่วยเรื้อรัง ภาวะน้ำหนักเกิน และระดับการออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรมระหว่างวันของสุนัข “ผู้ที่เป็นเจ้าของสุนัขจะต้องจำให้ขึ้นใจเลย ว่าสุนัขแต่ละตัวนั้นไม่เหมือนกัน” ด็อกเตอร์ โซโคโลวสกี้เพิ่มเติม เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนอาหารให้กับเขา คุณต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปให้ร่างกายเขาคุ้นเคย
ลูกสุนัขนั้นต้อง การสารอาหารพื้นฐานเช่นเดียวกันกับสุนัขโต แตกต่างกันเพียงอาหารสำหรับลูกสุนัขนั้น จะต้องย่อยง่าย ให้พลังงานสูง และมีปริมาณโปรตีนสูง สำหรับการพัฒนาการทางร่างกาย และต้องมีสัดส่วนของ แคลเซี่ยมกับฟอสฟอรัสที่พอเหมาะด้วย
และเนื่องจากว่า กระเพาะอาหารของลูกสุนัขนั้นมีขนาดเล็ก เขาควรได้รับอาหารเป็นมื้อเล็กๆ และแบ่งเป็นหลายๆ มื้อเพื่อให้เขาได้รับสารอาหารเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการด้วย ลูกสุนัขที่กำลังโตจะต้องการพลังงานสำหรับการเจริญเติบโต เมื่อเทียบกับสุนัขโตแล้วในน้ำหนักขนาดเดียวกันประมาณสองถึงสามเท่า
ในสุนัขขนาดเล็ก นั้นจะมีน้ำหนักเทียบเท่าสุนัขโตเมื่ออายุได้ประมาณ 6-9 เดือน ในขณะที่สุนัขพันธุ์ใหญ่นั้น จะต้องใช้เวลาประมาณ 18-24 เดือน จึงจะมีน้ำหนักได้ตามเกณฑ์ของสุนัขโต ในท้องตลาดตอนนี้มีอาหารเฉพาะ สำหรับสุนัขพันธุ์เล็กแล้ว (เป็นอาหารสำหรับสุนัขพันธุ์เล็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป) เพื่อเขาได้เติบโตไปอย่างที่ควรเป็น สุนัขแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีความต้องการไม่เหมือนกัน
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อสุนัขนันมีอายุได้ 7 หรือ 8 ปี เค้าจะเชื่องช้าลง มีกิจกรรมน้อยลงและต้องการอาหารน้อยลง แม้ว่าจะขึ้นอยู่กับสุนัขแต่ละพันธุ์ก็ตาม ควรเริ่มหรับให้เขากินอาหารเป็นมื้อเล็กลงแต่บ่อยครั้งขึ้นแทนที่จะให้กิน เป็น มื้อเดียวใหญ่ๆ เพื่อจะได้ไม่เป็นการบั่นทอนระบบการย่อยอาหารของเค้า คุณสามาถเลือกให้อาหารสำหรับสุนัขที่มีอายุมาก โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่ง่ายและมั่นใจได้ว่าเขาได้รับสารอาหารครบถ้วนและสมดุล เหมาะตามความต้องการของเขา
สุนัขที่ตั้งครรภ์ก็ต้องการอาหารมากเป็นพิเศษใน ช่วง 4 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ด้วย ดังนั้นกฏทั่วไป สำหรับการให้อาหารสุนัขที่ตั้งครรภ์ก็คือคั้งแต่สัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์เป็นต้นไป ให้เพิ่มปริมาณอาหารเขึ้นทุกๆสัปดาห์ ในปริมาณสัปดาห์ละ 15% จากของเดิม ส่วนในช่วงเวลาหลังคลอดลูกสุนัข แม่สุนัขจะต้องให้นมและดูแลลูกๆเป็นพิเศษ จึงต้องการอาหารในปริมาณที่เพิ่มจากเดิมถึง 4 เท่า และนอกจากนี้แม่สุนัขยังต้องการน้ำดื่มที่สะอาดและใหม่ ในปริมาณมากเพียงพอด้วย

การดูแลเป็นพ่อแม่ให้กับลูกสุนัข

การดูแลเป็นพ่อแม่ให้กับลูก สุนัข


การ เป็นเจ้าของลูกสุนัขนั้นเป็นเสมือนการเป็นเจ้าของสิ่งที่มีค่า นอกจากจะมีความสุขแล้วคุณยังต้องมีความรับผิดชอบ อีกด้วย ไม่ได้รับผิดชอบแค่เพียงกับตัวลูกสุนัขเท่านั้นแต่ยังต้องรับผิดชอบต่อคน อื่นๆและสภาพแวดล้อมด้วย

การ ฝึกฝน
ลูกสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีและเป็นลูก สุนัขที่มีวินัยย่อมเป็นศรีแก่ผู้เป็นเจ้าของ ดังนั้นคุณควรฝึกให้ลูกสุนัข นั้นสามารถทำตามคำสั่งพื้นฐานได้เป็นอย่างน้อย ลูกสุนัขที่ได้รับการสอนให้รู้กฎจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของครอบครัว เขาก็เหมือนกับเด็กๆที่คุณจะสามารถสอนให้รู้จักมารยาทและกฏของบ้านได้ นับตั้งแต่วันแรกที่คุณนำลูกสุนัขเข้ามาในบ้าน ให้สอนเค้าอย่าให้กัด แม้แต่ตอนที่เค้าเล่น นอกจากนั้นจะต้องสอนให้เค้าไม่เห่าเรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้สอนให้เค้าทำตามคำสั่ง “นั่ง” เสมอก่อนที่จะเล่นกับเค้าหรือให้อาหาร หัวใจสำคัญของการฝึกลูกสุนัข ของคุณนั้นก็คือต้องรู้ว่าลูกสุนัขเค้าต้องการจะทำให้คุณพอใจ ให้ใช้การชมเชยและให้รางวัลเค้าเมื่อเค้าปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง และให้สั่งด้วยน้ำเสียงแข็งๆว่า “ไม่” เมื่อคุณต้องการแก้ไขพฤติกรรมของเค้า
เมื่อลูกสุนัขของคุณเติบโตขึ้นคุณควรจะมองหาการฝึกที่ จริงจังมากขึ้น ลองติดต่อโรงเรียนฝึกสุนัขเพื่อสอบถาม รายละเอียดเกี่ยวกับชั้นเรียนต่างๆสำหรับการฝึกสุนัข การฝึกไม่่เพียงแต่จะทำให้ปฏิบัติตามคำสั่งพื้นฐานง่ายๆอย่าง “นิ่ง” “หมอบ” และ “มานี่” เท่านั้นแต่ยังเปิดโอกาสให้ลูกสุนัขของคุณได้รู้จักการเข้าสังคมกับสุนัข อื่นๆอีกด้วย

การดูแล ขนสุนัข
การดูแลตัดแต่งขนนั้นเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อทำ ให้ลูกสุนัขของคุณดูดีและให้เค้ารู้สึกดีที่สุด ลูกสุนัขที่ขนยาว หรือมีขนหนาต้องการการแปรงขนบ่อยกว่าในลูกสุนัขที่มีขนสั้นกว่า ในสุนัขบางพันธุ์จะต้องใช้ช่างตัดขนมืออาชีพ ดูแลให้เป็นประจำด้วย เราจะต้องทำให้ลูกสุนัขคุ้นเคยกับการถูกแปรงขนและหวีขนตั้งแต่อายุน้อยๆ สัตว์แพทย์จะสามารถ ช่วยตัดเล็บลูกสุนัข แปรงฟันให้เค้า หรือสอนวิธีให้คุณกลับไปทำเองที่บ้านได้ และถือเป็นความรับผิดชอบ ของคุณที่จะต้องพาลูกสุนัขไปรับการฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ กำจัดหมัด และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ หากคุณไม่คิดที่จะขยายพันธุ์ลูกสุนัขก็ควรจะพาเค้าไปตอนเสียตั้งแต่เค้ามี อายุได้สัก 6 เดือน นี้จะทำให้เค้ามีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น รวมทั้งเป็นการตัดตอนปัญหาสุขภาพบางอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

ลูก สุนัขที่ดีในสายตาเพื่อนบ้าน
ลูกสุนัขที่ถูกปล่อยให้ เห่ามากจนเกินไปนั้น เป็นการรบกวนเพื่อนบ้านและเพื่อนบ้านของคุณก็จะไม่อยากรู้ เท่าไรว่าอะไรที่ทำให้ลูกสุนัขคุณเห่า การเห่าอย่างไม่ลดละอาจเกิดจากความเบื่อหน่ายก็ได้
ลูก สุนัขนั้นโดยหลักแล้วเค้าต้องได้รับการกระตุ้นทางร่างกายและจิตใจบ่อยๆ เวลาที่คุณพาเขาไปเดินเล่นต้องใส่ สายจูงและปฏิบัติตามระเบียบของท้องที่นั้นๆด้วย ไม่ควรปล่อยให้สุนัขของคุณเที่ยวตะลอนไปไหนต่อไหนเอง เพราะอาจจะเกิดผลตามมาหลายอย่างเช่น เค้าอาจหายไป หรือได้รับบาดเจ็บหรือตายเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์
ความรับผิดชอบใน ฐานะที่คุณเป็นเจ้าของลูกสุนัขนั้น คุณจะต้องดูแลไม่ให้เค้าขับถ่ายในสวนสาธารณะ ชายหาดหรือตามถนน คุณควรให้เวลาเค้าขับถ่ายเฉพาะในสนามบ้านคุณก่อนที่จะพาเค้าออกไปเดินเล่น ข้างนอก แต่บางครั้งอาจจะเกิดเหตุที่เค้าจะขับถ่ายนอกบ้านโดยที่คุณไม่คาดคิดก็ได้ ดังนั้นคุณควรที่จะเตรียมถุงพลาสติกเพื่อเก็บ กำจัดสิ่งที่เค้าขับถ่ายออกมาเสีย

การ ป้องกัน
แม้ ว่าจะระวังแล้ว บ่งครั้งลูกสุนัขก็อาจเกิดหลงทางแล้วหายไปได้ คุณสามารถป้องกันโดยให้ลูกสุนัขของคุณ ใส่ปลอกคอและป้ายชื่อที่มีหมายเลขโทรศัพท์ของคุณติดอยู่ด้วยเสมอ เพื่อเป็นการกันเค้าหาย คุณอาจนำเค้าไปฝังไมโครชิพเสีย ให้กักบริเวณลูกสุนัขของคุณไว้ ในเวลาที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและการแสดงดอกไม้ไฟซึ่งมีเสียงดัง แต่ถ้าเค้าหายไปแล้ว ให้ถามจากเพื่อนบ้านของคุณ ตามคลินิกสัตว์แพทย์ท้องถิ่น สถานสงเคราะห์สัตว์ และองค์กรดูแลสัตว์อื่นๆ ให้ดูตามองค์กรเหล่านี้ในพื้นที่เขตใกล้เคียงด้วย เพราะบางครั้งเค้าอาจจะไปไกลกว่าที่เราคิด
หากคุณกำลังจะ วางแผนไปเที่ยวในวันหยุด คุณจำเป็นจะต้องตัดสินใจว่า จะดูแลลูกสุนัขให้ดีที่สุดได้อย่างไร ในขณะที่คุณไม่อยู่ สัตว์แพทย์ของคุณจะสามารถช่วยให้คำปรึกษาและแนะนำคอกพักสัตว์เลี้ยงดีๆให้ สำหรับฝากเค้า ไว้ชั่วคราวได้อีกด้วย หากคุณอยากจะพาลูกสุนัขไปเที่ยวด้วยกันในช่วงวันหยุดคุณก็จะต้องเตรียมการ ให้ดีเป็นพิเศษเช่นกัน แต่หากคุณจะไม่อยู่แค่สองสามวันคุณอาจจะขอให้เพื่อนบ้านหรือเพื่อนข้างบ้าน ช่วยให้อาหารเค้า แต่ห้ามทิ้งเขาไว้ตามลำพัง ในรถยนต์ เพราะในรถยนต์จะร้อนมากแม้ในวันที่อากาศไม่ร้อนจัดก็ตาม เค้าอาจจะตายจากอากาศร้อนได้

การสอนให้ฟังคำสั่ง

การสอนให้ฟังคำสั่ง


สุนัขนั้นเป็นสัตว์ที่มีความคุ้นเคยกับ การอยู่กันเป็นฝูงกับสุนัขตัวอื่นๆ ดังนั้นการเข้มงวดในเรื่องอันดับความสำคัญหรือจึงถือเป็นเรื่องปกติสำหรับ ลูกสุนัข หากคุณเลี้ยงเค้าอย่างเพื่อน ด้วยการให้ทุกอย่างที่เท่าเทียมกัน นั่นคุณอาจจะให้อิสระกับเค้ามากเกินไป และจะทำให้เค้าเกิดความสับสนได้เพราะสุนัขนั้นจำเป็นที่จะต้องวางกฏสำหรับ เค้าให้ชัดเจน ดังนั้นจึงต้องมีคนที่จะมาเป็นหัวหน้าฝูง
คุณ ไม่ต้องตะโกนหรือตะหวาดเขาดังๆ เพื่อให้เค้ารับรู้ว่าคุณต้องการอะไรจากเค้าหรอก น้ำเสียงของคุณนั้นมีความสำคัญยิ่งสำหรับเค้า และจะช่วยให้ลูกสุนัขได้เข้าใจว่าเมื่อไหร่ที่คุณพึงพอใจหรือตำหนิเค้า ส่วนคำที่คุณใช้กับเค้าก็จะมีความสำคัญเป็นอันดับต่อมา คุณควรจะเลือกคำที่สั้น อย่าไปใช้ประโยคยาวๆ อย่าง “มาทางนี้สิ!” อย่างนี้ยาวไป หากเปลี่ยนมาใช้ “มานี่” แทนอย่างนี้จะเหมาะกว่า
แม้ บางครั้งคุณดูจะสุภาพเกินไปแต่ลูกสุนัขจะไม่เข้าใจคำว่า “ได้โปรด” หรือ “กรุณา” หรอก แน่ละคุณอาจจะรู้สึกอึดอัดกับการใช้คำสั่งที่นุ่มนวลอยู่สักหน่อย แต่ก็ขอให้ทราบไว้ว่านี่จะเป็นทางเดียวที่จะทำให้คุณสามารถสื่อสารกันกับ สุนัขได้อย่างเข้าใจ
ในวันแรกๆเลยที่เค้ามาถึงบ้าน ลูกสุนัขของคุณจะมองหาตำแหน่งในฝูงใหม่ของตน นี่จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคุณที่จะเริ่มต้นด้วยการเล่นเกมส์เล็กๆสัก เกมส์สองเกมส์ เพื่อฝึกเค้า คุณควรเริ่มด้วยการเล่นออกกำลังแบบสั้นๆ แต่อย่าหยุดการออกกำลังจนกว่าลูกสุนัขจะทำได้ครบจนหมดแล้ว และอย่าลืมชมเชยเค้าทุกครั้งด้วย ในการออกกำลังแต่ละครั้งกำหนดให้เค้าทำไม่เกิน 5 นาที และทั้งหมดไม่ควรนานไปกว่า 15 นาทีต่อวัน
คุณจะต้องเป็นคน ตัดสินใจเองเท่านั้นว่าจะเล่นเกมส์เมื่อไหร่ และจะเลิกเล่นเมื่อไหร่ หากลูกสุนัขเป็นฝ่ายคาบของเล่นมาให้คุณเอง คุณควรจะบอกเค้าว่า “ไม่” ทุกครั้ง นี่จะเป็นการเสริมความเป็นหัวหน้าฝูงให้คุณได้

มานี่!
ให้ เริ่มการฝึกสุนัขอยู่ภายในบ้านก่อน อย่างแรกเลยต้องให้สุนัขตอบสนองที่คุณเรียกและเข้ามาหาคุณ ให้หมั่นใช้คำคำเดิมเสมอ อย่างถ้าใช้คำว่า “มานี่” ก็ให้พูดชื่อเค้าประกอบไปด้วย หลังจากที่คุณเรียกเค้าไปสักครั้งหรือสองครั้ง แล้วเค้าจะวิ่งเข้ามาหาคุณก็ให้ชมเชยเค้ามากๆ หรือไม่งั้นก็ให้อาหารชิ้นเล็กๆกับเค้าสักชิ้นก็ได้
บางที ลูกสุนัขอาจเห็นอะไรอย่างอื่นที่สำคัญกว่าการมาหาคุณ หากคุณเรียกแล้วเค้าไม่มาหาถึงสองครั้ง ให้ตามจับตัวเค้าแล้วอุ้มมาวางตรงจุดเดิม แล้วให้เริ่มออกกำลังใหม่อีกหนทันที ในกรณีที่คุณพาลูกสุนัขไปเดินเล่น เมื่อคุณเรียกเค้าแต่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา ให้คุณวิ่งไล่จับเค้า ลูกสุนัขเห็นว่านี่เป็นเกมส์สนุกที่คุณเล่นกับเค้าเท่านั้น หากลองแล้วไม่ประสบผลก็หมายความว่าคุณจะต้องใช้วิธีฝึกเค้านอกบ้านเสียแล้ว ล่ะ
หากคุณเรียกลูกสุนัขแล้วเค้าไม่มาหา ให้คุณหันตัวหนีเข้าออกมา แทบทุกตัวเมื่อเจอวิธีนี้เมื่อเค้าเห็นคุณเดินหนีเค้าก็จะวิ่งตามมาข้างหลัง และเค้าจะไม่ยอมให้คุณหายไปไหนแน่ แต่ไม่ใช่ว่าจะหนีเค้าไปจนสุดกู่เลยล่ะ ในการเดินด้วยกันเป็นครั้งแรกนั้น เราไม่ควรให้เค้าห่างเราเกินสัก 2-3 หลา หากคุณกำลังอยู่ในพื้นที่โล่ง ให้จูงเค้าด้วยเชือกจูงเสมอจนกว่าลูกสุนัขของคุณจะสำเร็จการฝึกฝนจนครบถ้วน แล้ว

ไม่!หยุด!
ลูก สุนัขทุกตัวนั้นอยากรู้อยากเห็นรายละเอียดของทุกสิ่งที่แวดล้อมตัวเค้าอยู่ ดังนั้นเค้าก็เลยอยากจะลองกัดๆแทะๆของต่างๆดูว่ามันมีรสยังไง เช่นนี้อาจทำให้คุณรู้สึกรำคาญ และที่มากไปกว่านั้นคืออาจจะเป็นอันตรายกับลูกสุนัขก็ได้ ต้นไม้ที่อยู่ในบ้านบางอย่างก็เป็นพิษ (อย่างต้น ไวโอเล็ทอาฟริกัน เป็นต้น) หรือเค้าอาจจได้รับบาดเจ็บ (อย่างเช่นต้น แค๊คตัส) ดังนั้นให้คุณย้ายต้นไม้ที่อันตรายอย่างนี้ออกไปให้ห่างจากที่เค้าจะเข้าถึง ได้
หากคุณจับได้ว่าเค้าเป็นคนแทะรองเท้าคุณ ให้คุณหาของที่เหมาะกว่าให้เค้าเคี้ยวแทน แล้วให้ชมเค้าด้วยหากเค้ารับไปเคี้ยวแทนรองเท้า ด้วยวิธีนี้ลูกสุนัขจะเคี้ยวและแทะได้อย่างสมใจโดยไม่ทำลายข้าวของของคุณ ไม่ว่าเค้าจะดูน่ารักน่าหยิกเมื่อเห็นเค้าหายไปกับรองเท้าแตะสักข้างก็ตาม แต่คุณจะต้องเริ่มวิธีการนี้เสียตั้งแต่ต้นไปตลอดทุกครั้งที่เค้าคาบรองเท้า คุณไปเคี้ยวเล่น โปรดจำไว้ว่า ยิ่งตัวเค้าใหญ่มากเท่าไหร่ฟันของเค้าก็จะยิ่งโตตามไปด้วย หวังว่าคุณคงไม่อยากจะให้รองเท้าทุกคู่ที่คุณมีถูกเคี้ยวแหลกไปด้วยฟันซี่โต เหล่านั้นนะ

นั่ง!
“นั่ง!” เป็นคำสั่งสำหรับการฝึกที่คุณสามารถให้เค้าทำได้ตั้งแต่การเล่นเกมส์ครั้ง แรกๆ พอต่อมาคุณก็สามารถเพิ่ม “หมอบ” และ “นิ่ง” ได้ด้วย คำสั่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมสุนัขได้ แม้แต่ในเหตุการณ์ที่ไม่ใคร่จะปกตินัก คุณก็จะสามารถเรียกเค้าและสั่งให้เค้านั่งลงได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการให้เค้าหยุดวิ่งไล่แมวและไม่ให้เค้าถูกรถชน เป็นต้น
แล้ว ทำยังไงจึงจะได้ผล? ขนมหรือของกินนับว่าเป็นผู้ช่วยที่ดีอย่างยิ่งเลยทีเดียวสำหรับการเริ่มต้น ให้ยืนถือขนมสักชิ้นอยู่เหนือหัวของสุนัขแล้วพูด “นั่ง!” เนื่องจากว่าเค้าต้องการที่จะกินขนมในมือคุณ เค้าจะนั่งลง ให้ชมเค้าที่เค้านั่งลงด้วย จากนั้นจึงค่อยให้ขนมแก่สุนัข แต่หากลูกสุนัขไม่ยอมนั่ง ให้คุณใช้มือกดหลังเค้าเบาๆเพื่อให้เค้านั่งลง จากนั้นจึงค่อยให้ขนมเมื่อเค้าทำตาม อย่าท้อตั้งแต่ต้น หากคุณเลิกสอนเค้าก็จะกลายเป็นว่าคุณสอนบทเรียนแบบผิดๆให้กับเค้านั่นเอง นั่นจะกลายเป็นว่า “ฉันจะดื้อ ฉันจะกินขนมชิ้นนั้นให้ได้”
พอ ตอนนี้สุนัขก็ได้เรียนรู้คำสั่งเบื้องต้น 2-3 คำสั่งไปแล้ว การให้สุนัขได้เข้าชั้นเรียนการปฏิบัติตามคำสั่งต่างๆก็จะช่วยให้สุนัขเรียน รู้คำสั่งได้ครบมากขึ้น ไม่ว่าเค้าจะเป็นสุนัขที่ว่ายากหรือว่าง่ายก็ตาม เพราะการเข้าชั้นเรียนแบบนี้จะทำให้สุนัขสนุกมากขึ้นเพราะได้เรียนกันเป็น กลุ่ม ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการเข้าชั้นเรียนที่จะต้องเรียนรวมกันกับสุนัข อื่นๆอีกมากมาย จะเป็นการสอนให้สุนัขรู้จักที่จะสู้และ/หรือยอมจำนนได้ในยามจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกสุนัขที่มักจะทำตัวขี้อายหรือขี้ตกใจเมื่อมีสุนัข ตัวโตๆอยู่รอบตัวไปหมด นี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะช่วยพัฒนาให้เค้ามีความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น ด้วย

การเตรียมบ้านเพื่อต้อนรับ ลูกสุนัขตัวใหม่

การเตรียมบ้านเพื่อต้อนรับ ลูกสุนัขตัวใหม่


ลูก สุนัขตัวใหม่ก็คือสมาชิกคนใหม่ของครอบครัว ตัวคุณเองต้องลองคิดดูว่าการมีสุนัขตัวใหม่จะมีผลต่อ ชีวิตคุณอย่างไร โปรดจำไว้ว่าสำหรับลูกสุนัขแล้วความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่เค้าต้องพบ ก็คือการต้องจากครอบครัวของตัวเอง มาอยู่กับโลกใบใหม่ที่ทุกอย่างใหม่หมดสำหรับเค้า คนหน้าใหม่ เสียงแบบใหม่ ซึ่งสามารถสร้างทั้งความตื่นเต้น และความเครียดให้เค้าได้พร้อมๆกันทีเดียว ต่อไปนี้จะเป็นการเตรียมการขั้นต้นเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการนำเค้ามาสู่โลกใบ ใหม่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

แนะนำ ลูกสุนัขให้รู้จักกับสมาชิกของครอบครัว
ตามธรรมชาติ ของเด็กๆนั้น ก็อยากจะเล่นกับลูกสุนัขซึ่งมาใหม่ อยากจะอุ้ม และอยากจะเลี้ยงเค้า คุณควรจะหาที่ที่เงียบๆสำหรับลูกสุนัขให้ไม่มีคนมากวนเค้าและให้เค้าได้พัก ผ่อน เมื่อลูกสุนัขเริ่มโตขึ้นและคุ้นเคยกับ สภาพแวดล้อมแล้ว เค้าจะเริ่มเข้าหาออกมาเล่นกับคุณและเด็กๆ เอง

ห้องที่ เหมาะสม
ให้หาที่อุ่นๆ ห่างจากลมเย็นๆให้เค้าอยู่ อย่างเช่นห้องครัวหรือห้องนั่งเล่น ลูกสุนัขจะเคี้ยวไปหมดทุกอย่าง ดังนั้นคุณจะต้องดูให้ดีว่าของหรือวัสดุที่จะใช้มาเป็นที่นอนของเค้านั้นจะ ต้องเป็นวัสดุที่ไม่เป็นอันตรายกับเค้าด้วย คุณอาจจะ หากล่องกระดาษแข็งที่ดึงข้างหน้าออกได้มาใช้เป็นที่นอนชั่วคราวให้เค้า ให้ปูพื้นกล่องด้วยหนังสือพิมพ์หรือผ้าห่มที่ซักง่ายๆ แต่เมื่อเค้าโตขึ้นและพ้นช่วงชอบแทะข้าวขอองแล้ว ขอแนะนำให้คุณซื้อที่นอนสุนัขที่ทำจากไวนิล หรือใช้ตะกร้าที่ทำจากวัสดุ อะไรก็ได้

บ้าน หลังเล็กที่อยู่ข้างนอก
หากบ้านคุณอยู่นอกเมือง คุณอาจให้เขาอยู่ในบ้านสำหรับสุนัขข้างนอกบ้านได้ บ้านสำหรับสุนัขควรจะ กว้างเป็นสองเท่าของตัวสุนัขที่มีขนาดโตเต็มที่แล้ว บ้านสำหรับสุนัขควรจะยกสูงจากพื้นเพื่อให้แห้งสะอาด หลังคาบ้านควรจะ สามารถถอดออกได้เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด และควรจะหาที่นอนนุ่มๆให้เค้าด้วย

การฝึกมารยาทการอยู่ในบ้านให้ลูกสุนัข

การฝึกมารยาทการอยู่ ในบ้านให้ลูกสุนัข


อัน ที่จริงการฝึกให้เค้าอยู่ในบ้านนี้จะไม่ค่อยพบว่าจะเป็นปัญหากับลูกสุนัขที่ ปกติสักเท่าใดนัก นั่นก็เพราะว่า สำหรับลูกสุนัขที่ได้อยู่กับแม่ของพวกเค้าจนกระทั่งอายุได้ 6-7 สัปดาห์จะมีพัฒนาการในการเรียนรู้ ที่จะเดินออกจากที่นอน ของเค้าเพื่อไปทำธุระส่วนตัว สัญชาติญาณของลูกสุนัขนั้นรักสะอาด จะมีไม่กี่ตัวเท่านั้นที่จะทำที่นอนของตัวเอง เปียกหรือเปรอะเปื้อน ลูกสุนัขเล็กๆมักต้องการฉี่และอึบ่อยกว่าตอนโต เพราะกระเพาะปัสสาวะกับลำไส้ที่มีขนาดเล็กอยู่ นี่เป็นโอกาสอันดีของคุณในฐานะที่เป็นเจ้าของเค้าที่จะสอนให้เค้าไปขับถ่าย ให้ถูกที่ถูกทาง นั่นจะเป็นส่วนที่ทำให้เค้า มีการเรียนรู้ที่เร็วขึ้นด้วย
อย่า ทำโทษเจ้าตัวน้อยถ้าเค้าทำผิด ในฐานะเจ้าของมันเป็นความรับผิดชอบของคุณ ที่จะพาเค้าไปขับถ่ายในที่ ที่คุณจัดไว้เป็นห้องน้ำสำหรับเค้าให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่เค้าต้องการ พาเขาไปเวลาเขาเพิ่งตื่นนอนหลังมื้ออาหาร หรือทุกๆหนึ่งชั่วโมง เมื่อคุณพาเค้าไปทำธุระข้างนอกบ้านให้รอจนกระทั่งเค้าทำธุระเสร็จเรียบร้อย ก่อน แล้วจึงชมเชยเค้าด้วยการให้ขนมชิ้นเล็กๆสักชิ้น หรือเล่นด้วยกันสักยก เมื่อเค้ากำลังเรียนรู้ คุณจะต้องคอยอยู่ด้วยกับเค้า ทุกตอน แล้วชมเชยเค้าให้ถูกเวลา
ลูกสุนัขเล็กๆนั้นมักจะขับถ่าย แบบไม่ตั้งใจบ่อยๆ นี่ก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันที่จะต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ กับเรื่องนี้ แล้วก็เก็บกวาดเสียให้เรียบร้อยโดยอย่าให้มีกลิ่นใดๆหลงเหลืออยู่เด็ดขาด ไม่งั้นอาจจะเป็นการส่งเสริมให้เค้าทำซ้ำกับที่เดิม ต่อไป และให้จำไว้เสมอว่าอย่าตวาดเมื่อเขาทำผิดแต่ให้ชมเชยหรือให้รางวัลเมื่อเค้า ทำถูกต้อง และในที่สุดเค้า ก็จะออกไปขับถ่ายข้างนอกได้เองในไม่ช้า
คุณ สามารถหัดให้สุนัขขับถ่ายให้เป็นที่และเป็นเวลาได้เช่นกัน โดยขณะที่เค้ากำลังขับถ่าย ให้บอกเค้าด้วยคำพูด (ที่คุณเลือกมา)เช่น “เร็วๆนะ” หรือ “ทำธุระกัน” แล้วในที่สุด สุนัขจะโยงคำเหล่านี้ เข้ากับการขับถ่าย
ใน ฐานะที่คุณเป็นเจ้าของเค้า คุณจะต้องป้องกันไม่ให้เค้าขับถ่ายไม่เป็นที่ให้ได้ การสอนสุนัขให้ขับถ่าย บนสนามในบ้านก่อนคุณออกไปข้างนอกก็จะช่วยไม่ให้เค้าขับถ่ายเลอะเทอะบนทาง เท้าหรือสวนสาธารณะได้ และควรจะนำ ที่ตักไปกับคุณด้วย เพื่อที่ว่าเมื่อสุนัขของคุณเกิดขับถ่ายในที่สาธารณะคุณจะช่วย ทำความสะอาดได้

ปลอกคอและสายจูง

ปลอกคอและสายจูง


เวลาที่คุณเลือกซื้อปลอกคอและสายจูง นั้นให้เลือกเอาอันที่ทำจากไนล่อน หรือหนังแบบนุ่มๆ ปลอกคอชนิดที่ สามารถปรับให้ขยายได้เมื่อลูกสุนัขโตขึ้นนั้นเหมาะที่สุด หากลูกสุนัขของคุณไม่เคยใส่ปลอกคอมาก่อนเลย เค้าควรจะเริ่มหัด ใส่เดินเล่นอยู่ในบ้านสัก 2-3 วันเสียก่อน เมื่อใส่แล้วในตอนแรกเค้าอาจจะเอามือปัดและเกี่ยวออก เพื่อที่จะให้เจ้าปลอกคอนั้นหลุดออกเสีย อย่างไรก็ดีจะเป็นอย่างนี้ไปไม่นานหรอกที่เค้าจะเริ่มคุ้นกับปลอกคอที่คุณ สวมให้
เวลาอยู่ในบ้านไม่จำเป็นที่ลูกสุนัขจะต้องใส่ปลอก คออยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าออกนอกบ้านเค้าไม่ควรจะออกไป โดยไม่ได้ใส่ปลอกคอ พอหลังจากสัปดาห์หนึ่งไปแล้ว ลูกสุนัขพอจะคุ้นเคยกับปลอกคอและเชือกจูงไปบ้างแล้ว คุณจึงจะสามารถนำลูกสุนัขออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้
แต่ก็ แน่นอนว่า ทุกๆสิ่งล้วนเป็นเรื่องใหม่สำหรับลูกสุนัข เค้าจะไล่ดมไปเสียทุกสิ่งขณะที่เดินเล่นอยู่ข้างนอก แต่หากเค้าจะหยุดเพื่อดมสิ่งที่สนใจทันทีจนคุณต้องระวังไม่ให้เผลอไปเหยียบ ทับตัวเค้าเมื่อเค้าหยุดเดิน เมื่อพาเขาไปเดินเล่น ด้วยกันข้างนอกเป็นครั้งแรก คุณควรจะพูดคุยกับเค้าบ้างเพื่อทำให้ลูกสุนัขสงบลง ไม่เช่นนั้นเขาอาจรั้นและต่อต้าน การใส่ปลอกคอและสายจูง ในเวลานี้ยังถือว่าเร็วไปนิดสำหรับการฝึกลูกสุนัข คุณอาจจะใช้วิธีหลอกล่อลูกสุนัข ให้เบี่ยงเบนจากความสนใจนั้นเสีย ลูกสุนัขก็เพียงแค่ตื่นเต้นอยากจะรู้จักสภาพแวดล้อมใหม่ๆเท่านั้น และอย่าลืมว่าคุณเท่านั้นที่เป็นคนตัดสินใจว่าจะเดินไปทางไหน ไม่ใช่ลูกสุนัข คุณอาจจะปล่อยให้ เค้าเที่ยวดมตรงนั้นตรงนี้บ้าง แต่เวลาที่คุณเรียกลูกสุนัข แล้วกระตุกเชือกจูงเบาๆ เค้าจะต้องตามคุณมาโดยไม่มีอาการขัดขืน
คุณอาจจะต้องให้ เวลาลูกสุนัขของคุณสัก 2-3 วันสำหรับการสร้างความคุ้นเคยกับเชือกจูง หลังจากนั้น คุณจึงจะสามารถสอนเค้าให้รู้จักความหมายของคำสั่ง “Heel” หรือ “เดิน” ซึ่งในการนี้ จะต้องใช้สัก 2-3 สัปดาห์ หรือเป็นเดือนจนกระทั่งเจ้าตัวน้อยจะทำตามคำสั่งคุณได้อย่างไม่มีที่ติ ถ้าคุณเริ่มอย่างถูกวิธี ก็จะเป็นการช่วยไม่ให้คุณต้องเจอ กับปัญหาหลายๆประการที่จะตามมา แม้ว่าสุนัขของคุณไม่ตัวใหญ่มากนัก การเดินเล่นด้วยกันจะสนุกขึ้นมาก ถ้าเค้าจะไม่ดึงเชือกจูงที่คุณถือให้ไปไหนต่อไหน การเข้าชั้นเรียนเพื่อฝึกฝนการเรียนรู้คำสั่งของสุนัข จะช่วยคุณได้มาก เพื่อที่จะให้เค้าได้รู้จักคำว่า “heel” หรือ “เดิน” ทั้งนี้ เป็นเพราะครูผู้ฝึกสอน จะให้โอกาสคุณกับสุนัขคู่ใจ ในการปฏิบัติตามขั้นตอนด้วยกันอย่างถูกต้อง และทำไปพร้อมๆกันกับเจ้าของและสุนัข คู่อื่นๆ

โภชนาการอาหารสุนัข

การให้อาหารสุนัข


อาหารที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณนั้นมี ความสําคัญต่อการมีสุขภาพดีและการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เวลา อาหารคือช่วงเวลาที่สร้างความพึงพอใจสําหรับสุนัข และ ยังเป็นการช่วยกระตุ้นให้สัมพันธภาพระหว่างคนกับสุนัขเหนียวแน่นขึ้น ตาอไปนี้จะเป็นคู่มือสำหรับคุณและเป็นคําตอบให้กับโภชนาการสําหรับสุนัขของ คุณ



อาหารที่สมดุล

เช่นเดียวกับเจ้าของ สุนัขต้องการอาหารที่มีสมดุลที่ดี ซึ่งประกอบไปด้วย โปรตีน ไขมัน คาร์โบรไฮเดรต รวมถึงวิตามินและเกลือแร่อีกหลายหลากชนิด อยู่ในปริมาณที่ถูกต้องเพื่อให้สุนัขมีร่างกายที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด สารอาหาร เหล่านี้ไม่เพียงต้องมีในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังจะต้องมีสัดสวนในแต่ละอย่างอย่างพอเหมาะ เพื่อให้สารอาหารเหล่านั้นเป็นสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล อาหารที่เป็นเนื้อแดงเพียงอย่างเดียวไม่เหมาะสมสําหรับสุนัข

บรรพบุรุษของสุนัขนั้น จะกินเหยื่อเข้าไปทั้งตัวพื่อการยังชีพ ไม่เพียงแต่เนื้อของเหยื่อเท่านั้น แต่ยังรวมถึง กระดูก อวัยะวะภายใน ลําไส้ หนัง และขน ทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าลําพังการให้สุนัขกินเนื้อแดงเพียงอย่างเดียวนั้น เนื้อแดงไม่ใช่อาหารที่เพียงพอสําหรับความต้องการ



อาหารสุนัขแบบปรุงเอง

ก่อนที่จะลงมือทําอาหารให้สุนัขกิน เองนั้น คุณจะต้องทําความเข้า ใจให้ถ่องแท้ก่อนว่า สารอาหารชนิดไหนที่ จําเป็นสําหรับสัตว์ นอกจากนี้ยังต้องเขาใจถึงคุณค่า ของสารอาหาร ที่อยู่ในอาหารชนิดต่างๆ การทำปฏิกิริยา ของสารอาหาร และยังต้องเข้าใจกรรมวิธีในการปรุงอาหาร และการจัดเก็บ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสารอาหารที่ยังคงอยู่ในอาหารนั้น โปรดระลึกอยู่เสมอว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทําอาหารให้สุนัขของ คุณด้วยตัวคุณเองให้ได้ครบคุณค่าทุกๆวัน โดยที่จะไม่ ต้องใช เวลา ความพยายามและความชํานาญของตัวคุณในการตระเตรียม

เจ้าของสุนัขบางคนชอบทําอาหาร ใหสุนัขในบางมื้อ เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ควรจะค่อยๆเพิ่มอาหารให้แก่สุนัขทีละ สองสามอย่าง อย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป เพื่อช่วยใหระบบย่อยอาหารของเค้า ได้ มีการปรับตัวคุ้นเคยกับอาหารชนิดใหม่ๆ อาหารจำพวก เนื้อสัตว์ ไข่ และขนมปังก็เป็นอาหารทั่วๆไปที่สามารถให้กับสุนัขได้ ถ้าอาหารที่ว่านี้เป็นอาหารหลัก สำหรับสุนัขในการบริโภค ดังนี้คุณควรจะเพิ่มวิตามินและเกลือแร่ต่างๆที่จําเป็นต่อสุนัขด้วย



อาหารสุนัขสําเร็จรูปที่มีขาย

อาหารสุนัขสําเร็จรูปที่ผลิตจาก ผูผลิตที่มีชื่อเสียง และมา พร้อมกับการรับประกันเกี่ยวกับโภชนาการที่เพียงพอ รวมถึงคุณภาพ และความปลอดภัย ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง จริงๆแล้ว อาหารเหล่านี้มีสูตรทําอยูมากมายหลากหลายชนิด และหลากหลายส่วนผสม ก็ให้คุณเลือกเอาเฉพาะแบบที่ใช้การได้ง่ายๆ อาหารสําเร็จรูปเหล่านี้ มีทั้งแบบที่สารอาหารครบถ้วน ในตัว หรือเป็นแบบอาหารเสริม

ถ้าคุณเลือกอาหารสําหรับสุนัขแบบให้สารอาหารครบถ้วนก็ไม่จำเป็นต้องให้อย่าง อื่นเสริมแล้ว ในขณะที่อาหารแบบที่ต้องประกอบกับอาหารอื่นได้รับการออกแบบมาให้ต้องเพิ่ม เติมแหล่งอาหารบางชนิดลงไปอย่างเช่นเนื้อกระป๋องกับขนมปังกรอบเป็นต้น ฉลากที่อยู่ข้างถุงอาหารจะบอกคุณได้ว่าอาหารที่คุณหยิบนั้น เป็นแบบสมบูรณ์หรือแบบ ต้องประกอบกับอาหารอื่น

อาหารสุนัขสําเร็จรูปจะมีให้คุณเลือกอยู่ สองแบบคือแบบแห้งและแบบเปียก อาหารแบบแห้งนั้นจะเป็น

ชนิดที่ก่อนบรรจุลงถุง ผู้ผลิตจะดึงความชื้นออกไปจากอาหารให้หมดเพื่อความสะดวกและประหยัด เวลาให้สุนัข คุณสามารถให้สุนัขกินทั้งที่ยังแห้งๆอยู่ก็ได้หรือจะผสมน้ำแล้วคนให้เข้ากัน ก่อนให้เค้ากินก็ได้

ส่วนอาหารสําเร็จรูปแบบเปียกนั้น ก็อย่างเช่นอาหารที่อยู่ในรูปกระป๋อง อาหารพวกนี้จะ ไม่ได้ถูกดึงน้ำ/ความชื้นออก คุณสามารถเปิดออกมาใหสุนัขกินได้ทันที แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารอย่างไรที่คุณจะเลือกให้กับสุนัขของคุณ ก็จะต้องให้น้ำเค้าดื่มด้วยเสมอทุกครั้ง และดูแล อย่างใกล้ชิดว่าเค้าดื่มน้ำไปครั้งละเท่าไหร่ สุนัขที่กระหายน้ำอยู่ตลอดเวลาอาจจะเป้นเพราะเค้ากําลังไม่สบายอยู่ก็ได้ และจําเป็นจะต้องพาเค้าไปพบสัตว์แพทย์ เพื่อทําการรักษาให้ถูกต้องด้วย นอกจากนี้ควรดูแลให้ชามข้าวและชามสําหรับใส่น้ำนั้นสะอาดอยู่เสมอ คุณจะต้องล้างให้สะอาดทุกครั้งหลังจากที่เค้าดื่มและกิน เสร็จแล้วและควรจะแยกภาชนะของเค้าไว้ต่างหากจากถ้วยชาม ของคนและไม่ควรเอาชามหรือจานข้าวของคุณใส่อาหารไปวางให้สุนัขกิน



กระดูกและนม

กระดูกนั้นมีประโยชน์สํา หรับสุนัขเพราะให้แคลเซี่ยม แต่ถ้าเค้าแทะแล้วกระดูกแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วกลืนลงไป ก็อาจเป็นอันตรายกับเค้าได้ แต่หากว่าสุนัขของคุณเค้าได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนอยู่แล้วก็ไม่จําเป็นจะ ต้องให้กระดูกเค้าอีก

แต่ที่ยิ่งดีกว่ากระดูกก็คือ ขนมขบเคี้ยวสำหรับสุนัขที่ขายตามร้านขายอาหารสุนัขและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง คือนอกจากจะ เคี้ยวสนุกแล้ว ก็ยังจะช่วยให้เหงือกและ ฟันของเค้ามีสุขภาพดีด้วย

ถึงแม้ว่านมจะมีสารอาหารที่เป็น ประโยชน์กับสุนัขเมื่อเค้ายังเด็กอยู่ แต่นมไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไปหาก ลูกสุนัขหย่านมไปแล้ว ลูกสุนัขรวมถึงสุนัขที่โตแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสที่อยู่ในนมได้ดีนัก ดังนั้นก็อาจจะทําให้เสาะท้องพวกเค้าด้วย หากคุณไม่แน่ใจว่าลูกสุนัขของคุณจะสามารถรับนมได้หรือไม่ให้ลองแบ่งหรือผสม กับน้ำในอัตราส่วนที่เท่ากันก่อนที่เค้าจะได้กินเป็นครั้งแรก



ลูกสุนัข

ก่อนที่ลูกสุนัขจะหย่านม นมจากแม่เป็นอาหารหลักซึ่งในนั้นมีสารอาหารที่จำเป็นอยู่ครบถ้วน แต่พอเค้าได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านใหม่กับคุณ ซึ่งเป็นตอนที่เค้าหย่านมไปแล้วและกําลังจะเริ่มกินอาหาร แข็งๆได้บ้างแล้วนั้น ลูกสุนัขจะคอยอาหารจากคุณซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะให้เค้าได้กินอาหารที่มี โภชนาการอย่างครบถ้วนตามที่ร่างกายของลูกสุนัข ต้องการหรือไม่

ความสมดุลของอาหารนั้นสําคัญ และจําเป็นต่อการเจริญเติบโตรวมไปจนถึงการพัฒนาการของลูกสุนัข เพื่อที่จะทําให้เค้าเกิดความกระปรี้กระเปร่า มีชีวิตที่ยืนยาวพร้อมสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ลูกสุนัขต้องการโภชนาการขั้นพื้นฐาน ที่เหมือนกับสุนัขที่โตแล้วแต่เนื่องจากลูกสุนัขนั้นจะโตเร็วมาก ดังนั้นเค้าจึงจำเป็นต้องได้รับสารอาหาร เหล่านี้ในปริมาณที่มาก เมื่อเทียบกับขนาดร่างกายของเขา

ลูกสุนัขก็เหมือนเด็กทารก พวกเค้ายังมีขนาดกระเพาะอาหารที่เล็กอยู่ ดังนั้นเราควรจะให้อาหารต่อมื้อกับเค้าน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง ในช่วงแรกของชีวิต ลูกสุนัขจะโตเร็วและมีพัฒนาการที่ เร็วมาก โดยทั่วๆไปแล้วแทบจะ ทุกพันธุ์จะมีน้ำหนักตัวเกือบครึ่งหนึ่งของสุนัขที่โตเต็มที่แล้ว เพียงอายุได้4-5 เดือนแรกเท่านั้น

อย่างไรก็ดีด้วยสายพันธุ์ ที่ต่างกัน ขนาดร่างกายที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงอายุของสุนัขที่โตเต็มที่ก็เป็นปัจจัยให้ น้ำหนักตัวมีความแตกต่างกันด้วย ยกตัวอย่างเช่น สุนัขพันธุ์ใหญ่จะใช้เวลาเติบโตเต็มวัยนานกว่าสุนัขพันธุ์เล็กๆ ส่วนสุนัขพันธุ์เล็กและพันธุ์ ตุ๊กตานั้น จะโตเต็มวัยเมื่อ อายุได้เพียง 6-9 เดือนเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบด้วยระยะเวลาที่เท่ากัน สุนัขพันธุ์ใหญ่จะยังไม่โตเต็มวัยนัก ลูกสุนัข นิวฟาวแลนด์หรือเกรทเดนนั้นจะยังตัวไม่โตเต็มที่จนกว่าเค้าจะมีอายุได้ 18 เดือนไปแล้ว และ ลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่ๆเหล่านี้จะมีพัฒนาการทางด้านโครงกระดูกที่มากหน่อย

ไม่ใคร่จะเป็นการดีนัก หากคุณให้อาหารในปริมาณมากๆเพื่อเร่งให้เค้าโตเร็วๆ ลูกสุนัขนั้นต้องการพลังงานมากกว่าสุนัขตัวโตๆประมาณ 2-4 เท่าที่ขนาดเท่ากัน การเจริญ เติบโตก็ต้องใช้พลังงานมาก ดังนั้นพวกเค้าจะต้องได้รับโปรตีนในปริมาณที่มากกว่าสุนัขโต และ ต้องเป็นโปรตีนชนิดซึ่งประกอบจากกรดอะมิโน ชนิดที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตด้วย อีกทั้งสุนัข เหล่านี้ยังจะต้องไดรับเกลือแร่ที่สําคัญในปริมาณที่ถูกต้องเพื่อสร้าง กระดูและฟัน ดังนั้นลูกสุนัขจึงต้องได้รับอาหารในปริมาณที่มากเมื่อเทียบกันกับน้ำหนัก ตัว แต่เนื่องจากกระเพาะอาหาร ของ พวกเค้าสามารถจุอาหารได้เพียงน้อยนิด คุณจึงต้องชดเชยให้เค้าโดยให้อาหารมื้อเล็กๆแต่หลายๆมื้อในแต่ละวัน และจะยิ่งดีขึ้นไปอีกหากอาหารที่ให้นั้นเป็นอาหารที่ออกแบบมาให้อุดมด้วยสาร อาหาร เพื่อเค้าได้รับสารอาหารมากที่สุด ในแต่ละมื้ออาหาร เล็กๆของเค้า

อาหารนั้นควรจะย่อยง่ายด้วยเพื่อที่จะให้ ร่างกายลูกสุนัขนำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่และจะต้องมีความสมดุล เพื่อให้คุณค่าสารอาหารตามความต้องการของร่างกายลูกสุนัขและแน่นอนอาหารลูก สุนัขจะต้องมีรสชาติอร่อย เพื่อให้ลูกสุนัข กินอาหารได้เต็มที่ หากลูกสุนัขไม่ค่อยกินอาหารที่ให้ก็คงจะต้องหาอุบายให้เค้าได้ออกกําลังที่ มากขึ้น เพื่อที่จะรับอาหารได้ มากขึ้นอีก

ที่จริงการให้อาหารลูกสุนัขนั้นไม่ ได้ยุ่งยากเหมือนที่เขียนมาแต่อย่างใด เพราะอาหารสุนัขที่ผลิตมาสำหรับ ลูกสุนัขโดยเฉพาะจะทำการบ้านมาให้คุณแล้ว ผู้ผลิตจะคำนวณว่าจะต้องมีสารอาหารอะไรในสัดส่วนเท่าไร จึงจะเพียงพอ ให้ลูกสุนัขได้รับสารอาหารครบอย่างเอร็ดอร่อยและเติบโตอย่างแข็งแรง สําหรับลูกสุนัขที่มีสุขภาพดีอยู่แล้ว นั้นก็ไม่จําเป่นต้องให้อาหารเสริมอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์อะไรก็ตาม ในทางกลับกันอาจจะเป็นโทษต่อเค้าด้วยซ้ำ แต่หากคุณคิดที่จะให้อาหารเสริมแก่เค้า ควรที่จะขอคําปรึกษาจากสัตว์แพทย์เสียก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เป็นอันตรายต่อเค้า อย่างแน่นอน

เวลาคุณเลือกลูกสุนัขให้สอบถามเรื่องการให้อาหารลูกสุนัขกับคนขายสุนัขก่อน แล้วจดรายการอาหาร สําหรับลูกสุนัขให้ด้วย คุณควรรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประเภทอาหาร ปริมาณอาหารและเวลาให้อาหารเค้าซึ่งเค้าเคยชิน อย่า รีบไปเปลี่ยนรายการอาหารให้แปลกออกไป การที่เค้าต้องเปลี่ยนบ้านอยู่จะทำให้เค้าจะเกิดความเครียดอยู่แล้ว และเค้าจำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้

เมื่อลูกสุนัขมาถึงบ้านคุณเค้าอาจจะมีอาการปวดท้องหรือท้องเสียอันเนื่องมา จากการจากแม่ของเค้าและการต้องเข้ามาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่แต่ถ้า เจ้าตัวน้อยยังคงมีอาการท้องเสียนานกว่า 24 ชั่วโมงหรือยิ่งเป็นมากขึ้น ให้รีบพาไปพบสัตว์แพทย์ทันทีและ หากคุณต้องการปรับเปลี่ยนอาหารให้กับลูกสุนัข ให้รอ ให้เค้าสามารถปรับตัวได้ จนเข้าที่เสียก่อน แล้วจึงค่อยๆปรับอาหารไปอย่างช้าๆหลังจากที่เค้ามาถึงบ้านคุณได้สัก 3-4 วัน ลักษณะการให้อาหาร ลูกสุนัขนั้นจะขึ้นอยู่กับอายุ พันธุ์และลักษณะประจําตัวของเค้าเอง

แต่อย่างไรก็ดีคุณจะต้องให้อาหารเค้าวันละ 4 มื้อ จนกว่าลูกสุนัขจะมีอายุได้ประมาณสัก 4 เดือน จากนั้นก็สามารถลดลงเหลือวันละ 3 เวลาได้จนเมื่อเค้ามีอายุได้6 เดือน หากคุณเห็นว่าลูกสุนัขรับอาหารได้ดี ก็สามารถลดปริมาณการให้ลงเหลือวันละ 2 เวลาก็ได้ ในสุนัขพันธุ์เล็กหรือที่เรียกว่า พันธุ์ตุ๊กตานั้นเค้าจะโตเต็มที่เร็วกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่ๆมาก ดังนั้นคุณสามารถให้เค้าเริ่มกินอาหารของสุนัขโตได้ตั้งแต่เค้ามีอายุได้ 8 เดือนเป็นต้นไป แต่สำหรับสุนัขพันธุ์ใหญ่นั้นยังอยู่ในช่วงเจริญเติบโตอยู่ ดังนั้นคุณยังต้อง ให้เขากินอาหารสำหรับลูกสุนัขไปก่อน สิ่งที่เป็นตัวบอกได้ดีที่สุดว่าคุณให้อาหารเค้าได้ถูกต้องตามโภชนาการหรือ เปล่า ก็คือสุขภาพของเขา คุณควรจดบันทึกน้ำหนักตัว ของเค้าเป็นประจํา เพื่อที่ว่าจะสามารถเช็คได้ว่า ขนาดและน้ำหนักนั้นได้ ตามมาตรฐานหรือเปล่า คุณยังสามารถที่จะปรับอาหารเพื่อไม่ให้เค้ามีน้ำหนักน้อยหรือมากเกินไปด้วย โดยทั่วไปแล้ว คุณควรให้ลูกสุนัขของคุณกินอาหาร มื้อละ 15-20 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นให้ทิ้งอาหารที่เหลืออยู่ไป คุณควรมีชามอาหารและน้ำให้กับลูกสุนัขแยกต่างหาก ควรเก็บก็ควรจะเก็บแยกจากภาชนะที่คนในครอบครัวใช้ด้วย น้ำดื่มที่ใหม่และสะอาดควรจะมีให้เค้าได้ดื่มตลอดเวลา หากคุณพบว่าลูกสุนัขนั้นหิวน้ำบ่อยจนผิดปกติ ก็ควรจะรีบนําตัวเค้า ไปพบสัตว์แพทย์เพื่อรับคําปรึกษา เพราะนั่นอาจจะเป็นสัญญาณบอกว่าสุนัขของคุณกําลังไม่สบาย



สุนัขที่กําลังโต

ขณะที่ลูกสุนัขของคุณกําลังเติบโต คุณควรที่จะให้อาหารที่เสริมสร้างการเจริญเติบโตเป็นอาหารหลักให้กับเขา ลูกสุนัขของคุณต้องการอาหารที่สารอาหารจำเป็นในปริมาณเข้มข้นที่ช่วยในการ พัฒนาร่างกายเป็นไปอย่างสมบูรณ์และเพื่อการเจริญของกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของกระดูก และเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย

และเมื่อเค้ามีขนาดและน้ำหนัก ใกล้เคียงที่จะโตเต็มวัย คุณจึงสามารถค่อยๆเปลี่ยนให้เค้ากินอาหารของสุนัขโตได้ และเค้าจะคุ้นเคยกับอาหารสุนัขโตเมื่อเค้าโตเต็มวัย ซึ่งอาจเป็นอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสุนัขแต่ละพันธุ์ การเปลี่ยนอาหารควรจะทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในช่วงเวลาประมาณ 1 สัปดาห์

เจ้าของสุนัขแทบทุกคนมักเป็นห่วงว่า ให้เค้ากินอิ่มหรือเปล่า โดยเฉพาะถ้าเป็นเจ้าของลูกสุนัขบางคนซึ่งรู้ว่า ลูกสุนัขต้องการสารอาหารในปริมาณมากเพือใช้ในการเจริญเติบโตและมักจะให้ลูก สุนัขกินมากเท่าที่เขาอยากกิน และ เนื่องจากสุนัขส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะกินมากเกินความต้องการและส่งผลให้ น้ำหนักเกิน คุณก็ควรที่จะให้อาหารเค้า ตามที่คำแนะนำการให้อาหารบอกไว้ข้างกล่องหรือถุงอาหารของสุนัขที่คุณซื้อมา

การให้อาหารมากเกินไปกับสุนัขที่กํา ลังโตจะทําให้เค้าอ้วนเกินไป อาหารที่เกินมานั้นจะถูกเปลี่ยนรูปเป็นไขมัน และเก็บไว้ตามตัวสุนัข ขณะที่สุนัขกำลังโตและมีอายุน้อย ร่างกายเค้าจะผลิตเซลไขมันเพิ่มขึ้น เพื่อจัดเก็บไขมันส่วนเกิน และเซลล์ไขมันเมื่อถูกสร้างขึ้นมาแล้วมันจะอยู่ กับตัวลูกสุนัขไปตลอดชีวิตและทำให้เค้ามีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักมากเกินไป ในสุนัขพันธุ์ใหญ่ทั้งหลาย การให้อาหารมากเกินไป สําหรับลูกสุนัขที่มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว อาจ ก่อให้เกิดปัญหากับโครงสร้างกระดูกของเขา ดังนั้นเป็นเรื่องสําคัญมากที่จะต้องคอยดูน้ำหนักของสุนัข ที่กําลังโต และสภาพร่างกาย ของเค้าโดยรวมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณได้ให้อาหารเค้าอย่างถูกต้องแล้ว หมั่นจดน้ำหนักเค้าอย่างสม่ำเสมอ และเปรียบเทียบกับ ตารางการเจริญเติบโตของลูกสุนัข เพื่อตรวจดูว่าเค้ามีอัตราการเจริญเติบโตที่ถูกต้อง และเป็นไปตามมาตรฐานสายพันธุ์ หากลูกสุนัขของคุณกําลังมีไขมันมากเกินพอดีนั่นก็แสดงว่าเค้าเริ่มอ้วนแล้ว ให้ปรึกษากับสัตว์แพทย์เพี่อขอคําแนะนําในกรณีที่คุณคิด ว่าตัวคุณเองให้อาหารสุนัขไม่ถูกต้องด้วย



สุนัขที่โตเต็มวัย

สุนัขก็เหมือนสัตว์ตัวอื่นที่จะต้อง กินอาหารเพื่อให้ได้พลังงานตามที่ร่างกายต้องการ อาหารที่ให้พลังงานได้ เพียงพอกับความต้องการ ควรจะให้สารอาหารครบถ้วนและสมดุลด้วย สุนัข นั้นได้รับพลังงานจากไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต คาร์โบไฮเดรต เป็นแหล่งพลังงานได้แต่ก็ไม่ใช่สารอาหารที่สําคัญสําหรับการโภชนาการของ สุนัข พลังงานที่สมดุล จึงมีความสําคัญเพื่อที่จะทําให้สุขภาพของสุนัขนั้นดีตลอดเวลาที่เค้ามี ชีวิตอยู่เลยทีเดียว

การให้อาหารที่น้อยไปก็ทําให้น้ำหนักต่ำ เค้าจะ เซื่องซึม ไม่สดใส และสภาพร่างกายไม่ดี แต่ถ้าอาหารมากไป ก็กลายเป็นสุนัขอ้วนๆ และมีปัญหายุ่งยากอื่นๆตามมา อย่างเช่นเริ่มปรากฏภาการณ์เจริญเติบโตที่ผิดปกติ ความต้องการพลังงานของสุนัขนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับระดับกิจกรรมของเค้าด้วย ยกตัวอย่างเช่น เค้าอาจเป็นสุนัขทํางาน เป็นสุนัขที่อยู่แต่ในบ้าน หรือให้อยู่นอกบ้าน หรือ หากเค้าป่วย อายุมากหรือกําลังโต ก็ต้องการพลังงานแตกต่างออกไป แม่สุนัขที่กําลังตั้งครรภ์และให้นมลูกนั้นก็ยิ่งต้องการพลังงานมาก หากสุนัขของคุณไม่ค่อยได้ออกกําลังหรือไม่ค่อยมีกิจกรรม ใดๆและเริ่มมีอายุมากแล้ว คุณก็จําเป็นที่จะต้องลดปริมาณอาหารแก่เค้าลงเพื่อที่เค้าจะไม่อ้วนเกินไป สําหรับคุณที่เลี้ยงสุนัขด้วยอาหารสําเร็จนั้น ฉลากที่ข้างถุงอาหารจะให้คําแนะนํากับคุณได้ว่า คุณควรจะให้อาหารในปริมาณเท่าไหร่ แต่ให้จําไว้ว่าฉลากหรือรายละเอียดที่ข้างกล่องเป็นเพียงข้อแนะนําที่ทํา ขึ้นมาอย่างกลางๆเท่านั้น ที่เหลือคุณจะต้องปรับ ให้เข้ากับความต้องการของสุนัขของคุณด้วย

หากเค้าเป็นสุนัขที่ดูกระฉับ กระเฉงตลอดเวลาและมีกิจกรรมอยู่เสมอเขาก็จะต้องได้อาหารในปริมาณมากขึ้นแต่ หากเค้าเป็นสุนัขที่ชอบนั่งอยู่เฉยๆเค้าก็ควรจะกินอาหารให้น้อยลงอีกเพราะ อย่าลืมว่าเค้าจะได้พลังงานจากอาหารรูปแบบอื่นที่คุณให้เพิ่มเข้าไปในอาหาร ก็ได้อย่างเช่น พลังงานจากขนมปังกรอบ เนื้อหมูหรือ เนื้อปลาชิ้นย่อมๆ สักชิ้นสองชิ้นปนกันเข้าไป วิธีที่ง่ายที่สุดสําหรับการเฝ้าดูนิสัยการกินอาหารและสุขภาพโดยรวมของเค้า ก็คือหลักฐานที่ได้จากมือและสายตาของคุณ หากสุนัข นั้นมีรูปร่างกําลังสวยคือไม่ผอมหรือไม่อ้วนเกินไป และตาสดใส ก็อาจจะแปลความหมายได้ว่าเค้ามีสุขภาพที่ดีแล้ว และอาหารที่ให้ก็อยู่ในระหว่างสมดุลดีด้วย อย่างไรก็ดีหากคุณเห็นแล้วว่าเค้ากลายเป็นสุนัขอ้วนไปแล้ว นั่น แสดงว่าคุณให้อาหารเค้ามากเกินไป

กรณีอย่างนี้ พยายามสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นด้วยการตัดแบ่งอาหารที่เคยให้ทั้งหมดลง หรือให้ลดขนมปังที่ คุณให้เพิ่มเข้าไปในอาหาร สุนัขแทบทุกตัวที่มีอายุตั้งแต่ 9 เดือนขึ้นไปสามารถให้อาหารเพียงวันละมื้อได้ หรือคุณจะแบ่งออกเป็นวันละ 2-3 มื้อก็ได้ ถ้านั่นทําให้เกิดความสะดวกกับคุณมากกว่า โปรดระลึกไวเสมอว่า สุนัขตัวเล็กๆนั้นมีกระเพาะอาหารที่เล็กและอาจจะต้องแบ่งอาหารออกเป็นวันละ สองมื้อดีกว่าเพียงวันละมื้อ เช่นเดียวกัน ในสุนัข ที่กําลังโตและสุนัขที่ต้องทํางาน รวมถึงแม่พันธุ์สุนัขที่กําลังตั้งครรภ์หรือคลอดลูกแล้ว แม้กระทั่งในสุนัขที่ป่วย หรืออยู่ในระยะพักฟื้นล้วนแล้วแต่ต้องการอาหารที่มากกว่าวันละมื้อทั้งนั้น คุณสามารถใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ ได้ว่าเมื่อไหร่ที่สุนัขของคุณจะต้องได้รับอาหารในปริมาณที่ถูกต้องตลอดเวลา



สุนัขที่ต้องทํางาน

สุนัขที่ต้องทํางาน อย่างเช่นสุนัขเลี้ยงแกะ สุนัขตํารวจ หรือ สุนัขพอยน์เตอรที่ใช้ในเกมล่าสัตว์มีความต้องการ ใช้พลังงานในแต่ละวันที่มากกว่าสุนัขทั่วๆไป สุนัข ที่ต้องทํางานและต้องการพลังงานมากนั้นมีสาเหตุมาจากหลายประการ เช่น สภาพแวดล้อม อุณหภูมิของร่างกาย อายุของสุนัข ความหนาของชุดป้องกันที่เค้าต้องสวม และปริมาณงานที่เค้าต้องทําในแต่ละวัน โดยปกติแล้วสุนัขที่ทํางานจริงๆจะต้องการอาหารมากกว่าสุนัขโตธรรมดาประมาณ 2 ถึง 4 เท่า ซึ่งเขาจะให้อาหารกันหนึ่งในสามส่วนตอนเช้า และที่เหลืออีกสองในสามจะให้เมื่อเค้าทํางานเสร็จแล้ว ในวันทํางาน เพราะพวกเค้าต้องการอาหารที่มีสารอาหารเข้มข้น หรือเป็นสูตรเฉพาะสำหรับสุนัขกิจกรรมมาก



สุนัขที่มีอายุ

เมื่อสุนัขของคุณแก่ตัวลงเค้าจะกระฉับกระเฉงน้อยลงและร่างกายเค้าจะใช้ พลังงานลดลง คุณจําเป็นจะต้องหมั่น คอยดูน้ำหนักของเค้า และถ้าจําเป็นก็ให้ลดปริมาณการให้อาหารกับเค้าให้น้อยลงเพื่อให้เค้ามี น้ำหนักที่เหมาะสม เนื่องจากสุนัขในวัยนี้มักจะพบ ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและปอดเนื่องมาจากปริมาณไขมันในตัวเค้าที่มากขึ้นรวม ทั้งปัญหาที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อต่างๆและข้อต่อด้วย สุนัขอ้วนจะมีชีวิตที่สั้นกว่าปกติ หากสุนัขของคุณเป็นสุนัขที่อ้วนแล้ว สัตว์แพทย์ของคุณจะต้องให้เค้าเข้าคอร์สลดอาหารและเปลี่ยนมาทานอาหารอย่าง ที่สัตวแพทย์จัดให้แทน

ในสุนัขที่มีอายุมากแล้วอาจจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคบางอย่าง ดังนั้นเค้าจะดีขึ้นถ้าได้มีการปรับเปลี่ยน เรื่องอาหารยกตัวอย่างเรื่องโรคที่เกี่ยวกับไต ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับระดับฟอสฟอรัสและโปรตีน และระดับของเกลือ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบหัวใจล้มเหลว สัตว์แพทย์ของคุณจะให้คําแนะนํากับคุณได้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับโภชนาการที่ เอื้อประโยชน์ให้กับสุนัขของคุณ

น้ำก็เปนสิ่งสําคัญที่ควร จะต้องมีเตรียมให้เค้าไว้ตลอดเวลา คุณควรจะต้องดูปริมาณน้ำที่เค้าดื่มและให้รีบขอ คําแนะนําจากสัตว์แพทย์โดยเร็วหากพบว่าเค้าดื่มน้ำบ่อยกว่าปกติเพราะนี่อาจ เป็นสัญญาณบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับโรคไต หรือโรคเบาหวาน สุนัขที่มีอายุมากบางตัวอาจจะพบว่ามีการอักเสบของกระดูกบริเวณคอและอาจจะทํา ให้เค้าก้มคอลง เพื่อกินอาหารไม่ได้ในกรณีนี้ต้องวางชามอาหารของเค้าให้อยู่ในระดับที่สูง ขึ้นกว่าเดิมในระดับที่เหมาะสมหรือหาที่หนุน ให้สูงขึ้นเพื่อเค้าด้วย



แม่พันธุ์สุนัข

แม่สุนัขจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาก ที่สุดในช่วง 4 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์เพราะลูกๆในท้อง ต่างก็มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น การให้อาการในปริมาณที่มากจนเกินไปในขณะที่ครรภ์ของเธอยังอ่อนๆ อยู่นั้นจะเป็นเหตุ ให้เกิดไขมันที่ไม่ได้ใช้งานเกิดขึ้นและอาจจะเกิดปัญหากับการคลอดได้วิธีการ โดยทั่วไปนั้นอาหารที่จะต้องให้กับ แม่สุนัขนั้นจะต้องให้เพิ่มมากขึ้นประมาณ 10-15% ต่อสัปดาห์หลังจากที่เธอตั้งครรภ์มาได้กว่า 5 สัปดาห์แล้ว ในช่วงการคลอดลูกของเธอ แม่พันธุ์สุนัขจะต้องกินอาหารมากกว่าปกติถึง 50% เมื่อเธอตั้งครรภ์มดลูกของเธอ จะขยายตัวออกเต็มท้อง กระเพาะอาหารของเธอจะขยายตัวได้ไม่เท่ากับปกติ ดังนั้น จะดีที่สุดหากจะให้อาหารแม่สุนัข ในแต่ละวันโดยแบ่งออกเป็น มื้อเล็กๆหลายๆมื้อและควรใช้อาหารที่มีสารอาหารเข้มข้นและควรมีรสชาติอร่อย ด้วยเพื่อที่เธอจะกินได้มากขึ้นเท่าที่ร่างกายเธอต้องการ

เมื่อลูกๆของเธอคลอดออกมาแล้ว อยู่ในระหว่างการดูแลของแม่สุนัข ความต้องการสารอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาเช่นนี้ แม่พันธุ์สุนัขจะต้องการกินอาหารเพิ่มขึ้นใน ปริมาณ 3-4 เท่าของอาหารที่เธอรับปกติ เพื่อให้มั่นใจว่าแม่สุนัขจะสามารถผลิตน้ำนมให้ได้มากเพียงพอกับความต้องการ ของลูกๆและยังคงมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงอยู่นั่นเอง ในช่วงการให้นม (ซึ่งอยู่ประมาณ 3-4 สัปดาห์) แม่พันธุ์สุนัขจะมีน้ำหนักลดลงประมาณ 4-7% ต่อวัน จากการผลิตน้ำนม

ดังนั้นจึงมีความจําเป็นที่จะต้องให้อาหารเธอวันละหลายๆมื้อ บางทีอาจจะให้ได้ 3-4 ครั้งต่อวัน โดยเน้นที่อาหารที่มีสารอาหารเข้มข้นและรสชาติถูกปากมากๆหน่อย บางทีอาจจะต้องให้เป็นมื้อกลางคืนอีกสักมื้อ ด้วยเหมือนกัน ให้คุณให้อาหารแม่พันธุ์สุนัขให้มากเท่าที่เธอต้องการ โดยไม่ต้องห่วงว่าเธอจะกินมากเกินไป และแน่นอนว่าอย่าลืมเตรียมน้ำดื่มที่ใหม่และสะอาดคอยไว้สําหรับเธอเสมอใน ช่วงสําคัญของชีวิตช่วงนี้