>>>>>> ใบเพ็ด ใบเพ็ด หรือใบ เพ็ดดีกรี (Pedigree) นั่นเองมันเป็นใบพันธุ์ประวัติ
ที่มีการบัญทึกประวัติของสุนัขตัวนั้นว่ามี พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ของสุนัขตัวนั้น ชื่ออะไร
ซึ่งทางซ้ายมือสุดคือ ชื่อของพ่อ-แม่ และไล่ไปทางขวามือตามลำดับ
ใบ pedigree ที่เห็นกันทั่วๆ ไปจะมี 3 ช่วงอายุ (generation) และ 4 ช่วงอายุ ซึ่ง 4 ช่วงอายุนั้นจะบอกถึงบรรพบุรุษ
สายตัวพ่อ(เพศผู้) จำนวนรวม 15 ตัว เรียกว่าสายบน และ
บรรพบุรุษสายตัวแม่(เพศเมีย) จำนวนรวม 15 ตัวเรียกว่าสายล่าง
รวมแล้วจะมีชื่อสุนัขที่ปรากฏอยู่ในใบพันธุ์ประวัติทั้งหมด 30 ตัว ใน 4 ช่วงอายุ
แล้วเจ้าใบนี้ มันสำคัญยังไงละ??
เจ้าใบ pedigree มีความสำคัญในการพัฒนาสายพันธุ์สุนัข เจ้าใบนี้มันจะบอกเราว่า สุนัขตัวนี้เป็นลูกใคร
เกิดจากการผสมแบบไหน ผสมสายเลือดชิด การผสมในสายเลือด หรือการผสมข้ามสายเลือด
ซึ่งใบเพ็ดไม่ได้จะเป็นการแสดงว่าเจ้าหมาตัวนั้นดีหรือไม่มี การที่จะรู้ว่าดีไม่ได้ มันก็อยู่ที่การเลือกซื้อสุนัข
ตัวรูปร่างหน้าตา นิสัย ความปกติของร่ายกาย ฯลฯ
________________________________________________________
ขั้นตอนการขอใบ
1. ต้องเป็นสมาชิคของสมาคมหรือว่าคอกได้จดทะเบียนกับสมา คมผู้เลี้ยงสุนัขรึยัง ในประเทศไทยก็มีสมาคมที่ได้การยอมรับจาก FCI ซึ่งเค้าเป็นสถาบันที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ สมาคอมนั้นก็คือ สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย)
2. ต่อมาดูแม่พันธุ์ได้จดทะเบียนไว้รึยัง หรือมีใบ Pedigree มั๊ย ถ้าหากไม่มีก็ไปจดทะเบียนแม่พันธุ์ก่อน ซึ่งจะได้เป็นสุนัขประเภท No Record ได้ ซึ่งหากเป็นแบนี้ ในใบ Pedigree จะปรากฏเฉพาะชื่อแม่พันธุ์อย่างเดียวจะไม่มีชื่อพ่อแ ม่หรือปู่ย่าตาทวด เพราะว่าไม่ได้มีการแจ้งบันทึกไว้ก่อน
แต่ถ้าสุนัขของเคยจดทะเบียนแล้ว ต้องมีชื่อในทะเบียนเป็นเจ้าของสุนัขถ้าซื้อต่อเขามา ต้องให้เจ้าของเดิมเซ็นสลักหลังโอนให้ด้วยจึงจะถือว่ า คุณเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์
สำหรับใบ Pedigree ถ้ามีใบ Pedigree ที่รับรองโดยสมาคมพัฒนาฯแล้วก็นำมาใช้ได้เลยแต่ถ้าเป ็นของสถาบันอื่น
ที่ไม่ได้รับการรับรองจาก FCI ก็นำมาใช้ไม่ได้ ต้องออกใหม่ในรูปของ NO Record เช่นกัน
สำหรับผู้นำเอาสุนัข มาจากต่างประเทศและมีใบ Pedigree ประเภท Export และเป็น Pedigree ที่ได้รับการรับรองจาก FCI ก็นำมาจดทะเบียนได้เลยเช่นเดียวกัน
3. ขั้นตอนต่อไป คือ เมื่อนำสุนัขไปผสมกับพ่อพันธุ์ก็ต้องขอดูใบทะเบียนแล ะ Pedigree จากเจ้าของพ่อพันธุ์ให้แน่ใจว่า
มีเอกสารถูกต้องสมบูรณ์และผู้รับผสมเป็นผู้มีสิทธิ์เ ป็นเจ้าของพ่อพันธุ์หรือไม่ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง ตามกฎของสมาคมฯถือว่าเจ้าของแม่พันธุ์เป็นผู้ผสมพันธ ุ์หรือ Breeder ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่เจ้าของแม่พันธุ์ ที่จะแจ้งผสมพันธุ์และจดทะเบียนครอกตามแบบฟอร์มที่สม าคมกำหนดซึ่งการนำแม่พันธุ์ไปผสมอย่าลืมนำแบบฟอร์มนี ้ไป ให้เจ้าของพ่อพันธุ์เซ็นชื่อรับรองด้วย เสร็จแล้วก็นำแบบฟอร์มไปยื่นกับสมาคมฯตามขั้นตอนและเ งื่อนเวลาดังนี้
1. ต้องแจ้งผสมพันธุ์ภายใน 15 วัน หลังจากวันผสม
2. ต้องแจ้งเกิดลูกสุนัขภายใน 15 วัน หลังลูกสุนัขคลอด
3. หลังจากแจ้งเกิดแล้วภายในไม่เกิน 45 วันให้ติดต่อรับใบทะเบียนครอก
(LITTER REGISTRATION) และหมายเลขทะเบียนตัว (REGISTER NUMBER)
พร้อมนำกลับไปตั้งชื่อสุนัข (โดยเสียค่าใช้จ่ายต่อตัวละ 50 บาท)
4. หลังจากตั้งชื่อสุนัขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้นำใบทะเบียนครอก
(LITTER REGISTRATION) มาขึ้นทะเบียนที่สมาคมฯ เพื่อขอรับใบรับรองทะเบียน
ตัวสุนัข (REGISTRATION CERTIFICATE) (โดยเสียค่าใช้จ่ายต่อตัวละ 100 บาท)
ภายในระยะไม่เกิน 6 เดือน
5. หากเจ้าของสุนัขต้องการใบรับรองพันธุ์ประวัติ (CERTIFIED PEDIGREE) 3 ชั่วอายุ
สุนัข ให้แจ้งความประสงค์ กับทางสมาคมฯ (โดยเสียค่าใช้จ่ายต่อตัวละ 100 บาท/ฉบับ)
ทีนี้ก็ทราบถึงวิธีการและขั้นตอนต่างๆแล้วนะครับ แต่ที่สำคัญอย่าลืมว่าการจะเพาะพันธุ์
สุนัขให้ได้ดีอยู่ที่การวางแผนการผสมพันธุ์โดยการคัด เลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดี การดูแล
สุขภาพทั้งก่อนและหลังการผสม ให้การดูแลลูกสุนัขให้เติบโตสมวัยเพื่อจะได้มีประชาก ร
สุนัข ที่มีคุณภาพต่อไป
________________________________________________________
จดพันธ์ประวัติ (PEDEEGREE) ออกโดยสมาคมพันธ์สุนัขแห่งประเทสไทย ชื่อย่อ KC
สถานที่สำนักงานใหญ่ 9/338 ซอย กม.25 ถ.พหลโยธิน เขตสายไหม กทม.10220
โทร 02-9903618 02-9903428-9 โทรสาร 02-9903619
ต้องสมัครเป็นสมาชิกค่าธรรมเนียมปีละ 200 บาท ต้องต่อทุกปี ถ้าไม่ต่อจะถือว่าขาดจากการเป็นสมาชิก
หลักฐานครั้งแรก สำเนาบัตรประชาชนพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง 1 ชุด
การโอนเปลี่ยนเจ้าของ 100 บาท
การแจ้งผสม ภายใน 15 วันไม่เสียค่าธรรมเนียม
ค่าแจ้งเกิดลูกสุนัข 50 บาท/ตัว
ค่าธรรมเนียมใบทะเบียนตัว 100 บาท
ค่าธรรมเนียมพันธ์ประวัติ 3 ชั่วอายุ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย (PEDEEGREE) ตัวละ 100 บาท
ค่าธรรมเนียมพันธ์ประวัติ 4 ชั่วอายุ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด (PEDEEGREE) ตัวละ 150 บาท
ใบทะเบียนตัว (Registration Certificate)
สิทธิในการเป็นเจ้าของสุนัขที่แท้จริง ทางสมาคมฯจะยึดถึงใบทะเบียนตัว (Registration Certificate) เป็นหลัก
เสียค่าใช้จ่ายตัวละ 100 บาท ยื่นสมาคมฯ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
ลักษณะใบเล็กยาว ที่สมาคมเวลาออกให้จะถามว่าเอาใบเล็กหรือใบใหญ่
ลายเซ็นเจ้าของสุนัข สมาคมฯ จะยึดถือลายเซ็นที่ให้ไว้กับสมาคมเป็นสำคัญ
ด้านหลังจะเป็นการเซ็นเปลี่ยนโอนเจ้าของใหม่
ให้ เจ้าของเก่าเซ็นโอนด้านหลังของใบร้บรองทะเบียนตัว และเจ้าของมายื่นแสดงการเปลี่ยนเจ้าของต่อไป เสียค่าใช้จ่ายต่อตัวละ 100 บาท
จดพันธ์ประวัติ (PEDEEGREE)
ค่าธรรมเนียมพันธ์ประวัติ 3 ชั่วอายุ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย (PEDEEGREE) ตัวละ 100 บาท
ค่าธรรมเนียมพันธ์ประวัติ 4 ชั่วอายุ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด (PEDEEGREE) ตัวละ 150 บาท
ใบแจ้งผสมพันธ์
ต้องแจ้งผสมพันธ์ ภายใน 15 วันไม่เสียค่าธรรมเนียม พอกรอกแบบฟอร์มแล้วก็ไปยื่น
พอ ลูกสุนัขเกิด ก็ไปแจ้งการเกิดและแจ้งชื่อลูกสุนัข ค่าแจ้งเกิดลูกสุนัข 50 บาท/ตัว ต้องเตรียมตั้งชื่อไว้ก่อน แล้วไปแจ้งโดยกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มอีกครั้ง
พันธ์ประวัติ (PEDEEGREE) ถ้านอกเหนือจากที่สมาคมออกให้ เป็นการทำใบฯ ขึ้นมาเอง มีอยู่หลายที่ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับ ่บางแห่งก็ทำปลอมขึ้นมา บางแห่งก็นำลูกสุนัขมาสวมใบแพ็ด จะเป็นการยากสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงค่ะ ใบแพ็ดที่แท้จริงออกโดยสมาคมจะมีรูปแบบตามที่นำมาลงให้ดูน่ะค่ะ เคยถามทางสมาคมก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการเอาผิดกับคนพวกนั้น เวลาไปซื้อขอทางเจ้าของดูใบฯ ของพ่อแม่ของลูกสุนัข จะทำให้รู้ได้ว่าใบฯ จากสมาคมหรือเปล่า ถ้ามีใบแพดฯ ก็จะทำให้ทราบประวัติสุนัข พ่อ แม่ ปู่ย่าตายาย เป็นใคร บางทีถ้าไปผสม จะได้รู้ว่าไม่ได้เป็นสายเลือดใกล้ชิด เหมือนคนที่มีใบทะเบียนบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น